รู้เบาะแสคาร์บอมบ์ 2 จุดที่สุคิรินแล้ว ตามล่าเจ้าของเก๋งแดวูต้องสงสัย นายกฯ กำชับจับตาวันลอยกระทง


ซุกระเบิด"เก๋ง-จยย."กดบึ้ม 2 จุดหน้า อ.สุคิริน ขณะประชุม"กำนัน-ผญบ." เจ็บรวม 71 ราย สาหัส 6 คน "ปลัด อ.-ผู้ช่วย ผญบ.หญิง" โคม่า ตร.กู้ทันหวุดหวิดอีก 2 ลูก นอภ.ชี้คนร้ายแฝงมากับผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน รองผู้ว่าฯนรารู้เบาะแสกลุ่มแล้ว ล่าเจ้าของเก๋งแดวู นายกฯสั่งตรวจเข้มทุกครั้งประชุม ชี้มุ่งก่อกวน ให้ระวังช่วงลอยกระทง ปัดบึ้มเย้ยหลังลงพื้นที่ ยันนโยบายแก้ใต้ถูกทางไม่เปลี่ยน

คาร์บอมบ์หน้าอ.สุคิริน

เหตุการณ์คนร้ายใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดแล้วกดชนวนระเบิดหน้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน จ.นราธิวาส จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน หลังจากนายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ นายอำเภอ (นอภ.) สุคิริน เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จาก 5 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชุมประจำเดือน โดยใช้อาคารตลาดกลางผลไม้ ซึ่งตั้งอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน เมื่อเสร็จสิ้นประชุม ขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยใหญ่บ้าน ทยอยเดินไปที่ลานจอดรถของตลาดกลางผลไม้เพื่อขึ้นรถกลับบ้าน คนร้ายได้กดโทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียมไนเตรต น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ที่ซุกไว้ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อแดวู สีเทา ทะเบียน บง 4740 ยะลา เกิดเหตุระเบิดขึ้นดังสนั่นหวั่นไหว สะเก็ดระเบิดกระจายไปรอบบริเวณ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และรถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายคัน ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายวรเชษฐ์ นอภ.สุคิริน และปลัดอำเภอ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมประชุมต่างวิ่งหาที่หลบภัยกันอย่างชุลมุน

จยย.บึ้มซ้ำบาดเจ็บ71คน

ต่อมาเวลา 11.30 น. ขณะที่ตำรวจ ทหาร รวมถึงหน่วยกู้ภัย กำลังช่วยลำเลียงผู้ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลสุคิรินอย่างรีบเร่งนั้น คนร้ายกดโทรศัพท์จุดชนวนระเบิดน้ำหนัก 15 กิโลกรัมที่ซุกไว้ในรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช ทะเบียน กกย 953 นราธิวาส ซึ่งนำมาจอดไว้ที่หน้าร้านขายน้ำชาของนายช่วย ชัยเมฆ เลขที่ 73/13 หมู่ 4 ต.สุคิริน ปากทางเข้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน ห่างจากจุดระเบิดจุดแรก 200 เมตร และเป็นเส้นทางลำเลียงผู้บาดเจ็บจากจุดเกิดเหตุเพื่อนำส่งโรงพยาบาลสุคิริน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกหลายคนท่ามกลางเสียงร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ

หลังจากเหตุระเบิดทั้งสองลูก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุคิริน รวม 71 คน จากนั้นโรงพยาบาลสุคิรินได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อมายังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก 23 คน และส่งตัวมายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส 5 คน ในจำนวนนี้ นางอัมพร ปุย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.สุคิริน อาการสาหัส ขณะที่โรงพยาบาลสุคิริน รับผู้บาดเจ็บเป็นผู้ป่วยใน 7 คน นอกนั้นทำแผลเสร็จอนุญาตให้กลับบ้านได้

กู้ทันหวิดระเบิดอีก2ลูก

ต่อมา พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นราธิวาส วิทยุสั่งการให้ ผกก.สภ.ทั้ง 19 สภ.ใน 13 อำเภอ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาระเบิดที่เหลือ ซึ่งคาดว่าคนร้ายยังได้ซุกซ่อนระเบิดไว้ในจุดล่อแหลมอีกหลายจุด ทั้งยังมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดขึ้นด้วย จนกระทั่งเวลา 11.45 น. พบระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียมไนเตรต บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ซ่อนอยู่ในถังขยะบริเวณหัวสะพานบ้านสุคิริน ทางไป ต.นิคม อ.สุคิริน

ซึ่งก่อนหน้านี้เวลา 10.30 น. ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ภ.จว.นราธิวาส เข้ากู้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดเดียวกัน บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือได้ 1 ลูก บริเวณบ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ดัดแปลงเป็นร้านค้าขายของชำของนางลัดดา สุทธานี อายุ 72 ปี ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต พร้อมนางดารุณี วงศ์ดวงแก้ว ลูกสาววัย 37 ปี รวม 2 ศพ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ใต้2

ชี้คนร้ายใช้ช่องว่างก่อเหตุ

เวลา 15.20 น. พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการ กองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (พตท.) จ.ปัตตานี และ พล.ต.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 มาที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส เข้าเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมารักษา จำนวน 5 คน นอกจากนี้ยังไปเยี่ยมอาการของผู้บาดเจ็บที่ รพ.สุไหงโก-ลกจำนวน 23 คน

พล.ท.กสิกรกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการหาช่องว่างของกลุ่มคนร้ายในการก่อเหตุ ยืนยันยังไม่มีการปรับเปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัยของกองกำลัง 3 ฝ่ายในระยะนี้ แต่จะเน้นการปฏิบัติการเชิงรุกด้านยุทธการ และการเสริมสร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการที่ใช้ปฏิบัติอยู่นั้นสามารถดูแลพื้นที่ได้

เผยแฝงมากับกำนัน-ผญบ.

ด้านนายวรเชษฐ์ นอภ.สุคิริน ซึ่งมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บพร้อมกับคณะของ พล.ท.กสิกรด้วย กล่าวว่า คนร้ายได้แฝงตัวปะปนมากับผู้ใหญ่บ้านที่มาร่วมประชุมประจำเดือน และนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ซุกระเบิดมาจอดในลานจอดรถของตลาดกลางผลไม้ ด้านหน้าอาคารที่ว่าการ อ.สุคิริน ช่วงจังหวะที่เลิกประชุม คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดที่ซุกไว้ในรถยนต์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 71 คน

เวลา 16.30 น. ทาง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส ได้ประสานไปยังส่วนราชการต่างๆ รวมถึงภาคเอกชนเพื่อขอบริจาคเลือดทุกกรุ๊ปอย่างเร่งด่วน เนื่องจากโลหิตในธนาคารเลือดมีไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้บาดเจ็บ ซึ่งยังรักษาอาการอยู่ใน รพ.สุคิริน 7 คน รพ.สุไหงโก-ลก 23 คน และ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 4 คน

ผช.ผญบ.หญิง-ปลัดอ.ยังโคม่า

นายจำลอง รัตนพันธ์ รองผู้อำนวยการ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวถึงอาการนางอัมพร ปุย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ที่มีข่าวเสียชีวิตแล้วว่า ขณะนี้นางอัมพรยังมีชีวิตอยู่ แต่อาการหนักมาก มีแผลฉกรรจ์ที่กกหูด้านหน้าขวา (โหนกแก้มขวา) ผ่าตัดตั้งแต่เวลา 14.30 น. จนถึงเวลานี้ยังไม่แล้วเสร็จ และเวลา 17.50 น. ทาง รพ.นำตัวนายวินิจ เทพนิมิตร ปลัดอำเภอสุคิริน ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจนกะโหลกศีรษะยุบอาการสาหัสมาก ส่งตัว รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อีก 1 คนด้วย

รู้เบาะแสกลุ่มคนร้ายแล้ว

ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ รอง ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงหลายฝ่ายได้กระจายกำลังออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายทันที ขณะนี้ได้เบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว พบว่าคนร้ายนำรถยนต์แดวู ที่ซุกระเบิดเข้ามาจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลา 09.00 น. และมีรถกระบะมารับพาหลบหนีไป ตรวจสอบป้ายทะเบียนพบเป็นป้ายทะเบียนปลอม ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ล่าสุดมีทั้งหมด 33 คน แยกเป็น รพ.สุไหงโก-ลก 18 คน รพ.สุคิริน 9 คน รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ 5 คน และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 คน

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก รพ.สุคิรินว่ามีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 71 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก มีบาดแผลฉกรรจ์และบาดเจ็บทางสมอง 6 ราย ส่งไปรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์  กำชับผู้บริหารโรงพยาบาลในพื้นที่จัดกำลังแพทย์ พยาบาล ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย และในวันที่ 5 พฤศจิกายน ให้ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. และคณะลงพื้นที่ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ รพ.เพื่อติดตามสถานการณ์

สั่งตรวจเข้มทุกครั้งประชุม

เวลา 16.00 น. สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ภายหลังพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระหว่างการบันทึกเทปโทรทัศน์อาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคลในเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ว่า ได้รับรายงานล่าสุดว่าเป็นเหตุระเบิดระหว่างประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยระเบิดอยู่ที่รถยนต์คันหนึ่งของผู้มาประชุม แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของจะรู้มาก่อนหรือไม่ ระเบิดเกิดขึ้น 2 ครั้ง เวลา 11.20 น. และอีก 6 นาทีต่อมาที่รถจักรยานยนต์คันหนึ่ง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

"ขณะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สั่งเจ้าหน้าที่หมั่นตรวจตรารถ แต่ตามข่าวระบุรถคันที่เกิดระเบิดเข้ามาในงานคันสุดท้าย ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าระเบิดอยู่ในรถก่อนหรือหลังมาจอด ต้องรอผลสอบสวน จากนี้เจ้าหน้าที่ต้องดูแลตรวจตราเข้มข้นขึ้นทุกครั้งที่มีการประชุมรูปแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากให้โทษเจ้าหน้าที่ เพราะบางครั้งการประชุมจะมีรถจำนวนมากยากแก่การดูแล แต่ไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก เพราะทำลายขวัญประชาชน" นายกฯ กล่าว

มุ่งก่อกวน-ให้ระวังลอยกระทง

นายสมชายกล่าวว่า ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นการก่อกวนและสร้างสถานการณ์ ระยะหลังได้เกิดเหตุลดลง แต่บังเอิญว่าครั้งนี้มีการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ได้กำชับไปว่าให้ตรวจตราดูแล และหลีกเลี่ยงการประชุมใหญ่ที่มีคนร่วมเยอะๆ รวมทั้งช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทง คงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ที่ไปเที่ยวด้วย อย่าไปเที่ยวในที่ที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานมือหนัก ระวังมือที่สาม ที่สี่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์

ปัดบึ้มเย้ยหลังลงพื้นที่

เมื่อถามว่า เหตุเกิดเพราะเป็นการท้าทายที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตีความไกลเกินไปหรือไม่ เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุใหญ่ในรอบปี การโยงไปว่านายกฯลงพื้นที่ไปแล้วทำให้เกิดเหตุ คนอื่นๆ คงไม่ยอมให้ตนไปไหนอีก เมื่อถามว่า เกิดเหตุอย่างนี้ยังกล้าลงพื้นที่ใต้อีกหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ผมต้องกล้าลงไป เพราะต้องดูแลคนของเราŽ

นายสมชายกล่าวว่า ขณะนี้ ผบ.ทบ.มีแผนปรับการทำงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อยู่แล้ว และมั่นใจในแผนการดังกล่าว เพราะเท่าที่ฟังรายงานรู้สึกว่ารอบคอบ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นความพลาดพลั้งหรืออุบัติเหตุ เพราะคนที่จ้องจะทำกับคนที่ระมัดระวังนั้นมันยากกว่าอยู่แล้ว

ข้องใจปล่อยรถเข้าจุดสำคัญ

"วันนี้เพิ่งประชุมเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจ และได้หารือเรื่องการช่วยเหลือดูแลกำลังพลในพื้นที่ ที่เคยได้รับเบี้ยเสี่ยงภัย 2,500 บาทต่อเดือน แล้วถูกลดเหลือ 1,500 บาทต่อเดือน จะพยายามให้กลับมาเท่าเดิม รวมทั้งเครื่องมือ เครื่องใช้ต้องพร้อม อย่างเช่น เครื่องเอ็กซเรย์วัตถุระเบิดต้องมีในพื้นที่ ดังนั้น ถือว่าผู้บริหารไม่ได้ห่างหายไปไหน" นายสมชายกล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งกองทัพมีมาตรฐานที่จะดูแลคนหมู่มาก และกำชับให้มีมาตรการต่างๆ ไม่ให้มีการนำรถเข้าไปจอดใกล้จุดสำคัญ ทั้งนี้ ได้สั่งเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไมมียานพาหนะไปจอดบริเวณดังกล่าวได้อีก

สมชายยันนโยบายมาถูกทาง

ก่อนหน้านี้ เวลา 14.00 น. นายสมชายเป็นประธานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมชมเชยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพส่งผลให้สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น และจะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายหรือแนวทางดำเนินการในด้านต่างๆ มากนัก เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องซึ่งเชื่อว่าเดินมาถูกทางแล้ว

ด้านพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ที่ประชุมพูดคุยถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ อ.สุคิริน นายกฯได้แสดงความเป็นห่วง สำหรับ อ.สุคิรินนั้นเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดเหตุมาก่อนเป็นเวลากว่า 2 ปี จึงเป็นไปได้ว่าผู้ที่ต้องการที่ให้เกิดเหตุจะอาศัยเลือกเป็นพื้นที่ในการลงมือ เพราะพื้นที่ไม่ค่อยมีความเข้ม แต่จากนี้จะต้องเพิ่มความเข้มกว่าเดิม เร็วๆ นี้จะมีการเสนอ ครม.พิจารณา เพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยให้ข้าราชการกว่า 1.3 แสนคน ในพื้นที่ที่ได้รับแค่ 1 พันบาทต่อเดือน

ชุดฉก.ยึดอุปกรณ์ระเบิดอื้อ

ส่วนที่ จ.ยะลา เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองบังคับการกรมทหารพรานที่ 41ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจยะลาที่ 16 และตำรวจ สภ.กรงปินัง เข้าตรวจค้นในป่าเนินเขา หมู่ 9 บ้านอูเบ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา พบถังพลาสติคฝังอยู่ใต้ดิน ขุดขึ้นมาพบฝักแคระเบิดยาว 70 ฟุต สารประกอบระเบิดชนิดเจล 1 กระป๋อง สารเคมีประกอบระเบิดชนิดของเหลว พลุส่องแสงขนาดใหญ่ ปุ๋ยยูเรีย ท่อพีวีซี และข้าวสารอีกจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น 13 รายการ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ยิงโต๊ะอิหม่ามอ.ยะรังดับ

ส่วนที่ จ.ปัตตานี กลางดึกที่ผ่านมา นายมูฮำหมัดซีดี เปาะซา อายุ 40 ปี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดปอเนาะซะเอาะ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มใช้อาวุธปืนอาก้ากระหน่ำยิงใส่ 4 นัดซ้อน เสียชีวิตคาที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 2 ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง เชื่อสาเหตุสังหารเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มโจรก่อการร้าย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์