จากเหตุการณ์สะเทือนใจ น.ส.กนกวรรณ คงเมือง อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 143 หมู่ 14 ต.เนินสว่าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร นักเรียนชั้น ม.6
โรงเรียนสระหลวงพิทยาคม อ.เมืองพิจิตร ถูกนายสุรศักดิ์ หรือแจ๊ค พูลแย้ม อายุ 24 ปี หนุ่มคนงานก่อสร้างอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงที่พยายามตามจีบตามตื๊อ แต่ น.ส.กนกวรรณไม่เล่นด้วย ทำให้นายสุรศักดิ์หนุ่มรักคุดไม่พอใจ ฉวยโอกาสที่ น.ส.กนกวรรณขี่รถจักรยานยนต์กลับจากกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มในตัวอำเภอมุ่งหน้ากลับบ้านไปตามถนนสายโพธิ์ประทับช้าง-ทุ่งใหญ่ ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.กนกวรรณเสียหลักล้มลง
จากนั้นนายสุรศักดิ์ตามลงไปใช้น้ำมันเบนซินบรรจุในขวดเบียร์ที่เตรียมมาเทราดใส่ร่าง น.ส.กนกวรรณ พร้อมใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาทั้งเป็น
เกิดเปลวเพลิงลุกท่วมร่างดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้ประสบเหตุช่วยเหลือนำส่ง รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก มาตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. ในสภาพใบหน้าและลำตัวถูกไฟคลอกผิวหนังไหม้เกรียม แพทย์ได้ส่งตัวต่อไปรักษาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้เป็นคนไข้ใน พระบรมราชินูปถัมภ์ สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับครอบครัว น.ส.กนกวรรณเป็นล้นพ้นแล้วนั้น ล่าสุด หนุ่มรักคุดรายนี้ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้วหลังถูกกดดันอย่างหนัก
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 พ.ย. พ.ต.อ.ชัยสิทธิ์ ทรัพย์สิน ผกก.สภ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร พร้อมกำลัง
ตำรวจเดินทางไปรับตัวนายสุรศักดิ์ หรือแจ๊ค พูลแย้ม อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 225 หมู่ 7 ต.คงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ผู้ต้องหาที่ราดน้ำมันเผาทั้งเป็น น.ส.กนกวรรณ ที่บ้านญาติแห่งหนึ่งใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี หลังได้รับการประสานจากญาติว่านายสุรศักดิ์จะเข้ามอบตัวกับตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสุรศักดิ์เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.6 ที่มารอรับอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าอาคารห้างสรรพสินค้าเทศโก้โลตัส สาขาสระบุรี ริมถนนมิตรภาพ ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี ท่ามกลางสื่อมวลชนและประชาชนที่ทราบข่าวมามุงดูจำนวนมาก สร้างความโกลาหลอยู่พักใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องกันชาวบ้านออกไป
นายสุรศักดิ์ซึ่งมีสีหน้าไม่แสดงอาการสะทกสะท้าน เปิดเผยว่า คบหาใกล้ชิดกับ น.ส.กนกวรรณมานานกว่า 2 ปี คอยให้เงินส่งเสียเล่าเรียน
ระยะหลังจับได้ว่า น.ส.กนกวรรณตีตัวออกห่าง ไปคบหาเพื่อนชายคนใหม่ ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุลวง น.ส.กนกวรรณให้ออกไปพบ บอกว่าจะให้เงินใช้ เมื่อ น.ส.กนกวรรณยอมไปพบ จึงได้ต่อว่าเรื่องที่ น.ส.กนกวรรณคบหากับเพื่อนชายคนใหม่ และยังมาหลอกเอาเงินอีก เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง นอกจากนี้ นายสุรศักดิ์ยังปฏิเสธเรื่องใช้น้ำมันราด น.ส.กนกวรรณแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็น อ้างว่าไม่ได้ราดนํ้ามันแค่ทำสะเก็ดไฟจากไฟแช็กไปโดนตัว น.ส.กนกวรรณ หลังเกิดเหตุหลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติใน อ.พระพุทธบาท และหลังทราบว่าถูกตำรวจไล่ล่า จึงหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าเขต อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี แต่ถูกตำรวจกดดันหนัก ประกอบกับสงสารพ่อแม่ จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังออกจากคุกแล้วจะไปเยี่ยม น.ส. กนกวรรณ
ด้าน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.6 กล่าวว่าหลังเกิดเหตุได้จัดชุดไล่ล่าผู้ต้องหารายนี้จำนวน 3 ชุด กระจายไปตามจุดเป้าหมายต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหนีไปกบดาน
ทำให้ผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหว ขณะเดียวกัน ทางพ่อแม่ของผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี แต่เหตุที่มอบตัวล่าช้า เพราะพ่อแม่ยังติดต่อไม่ได้ ก่อนหน้านี้ได้แนะนำพ่อแม่ของนายสุรศักดิ์ว่า ให้นำลูกชายเข้ามอบตัว เพราะสังคมจะได้เกิดความรู้สึกที่ดี อย่างน้อยที่สุดพ่อแม่ของผู้เสียหายจะได้ให้อภัย ในที่สุดผู้ต้องหาก็ยอมมอบตัว ตอนแรกจะรับมอบตัวที่กองกำกับการตำรวจ ภูธรจังหวัดสระบุรี แต่นายสุรศักดิ์ผู้ต้องหาขอเปลี่ยนสถานที่จะมามอบตัวที่หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาสระบุรีแทน ภายหลังมอบตัวแล้วให้ตำรวจพื้นที่ควบคุมตัวกลับไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพดำเนินคดีต่อไป โดยตั้งข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน