ขี้ยาคลั่งบุกชิงทรัพย์ร้านชำ แทง-ตี

ไอ้หนุ่มขี้ยาสวมวิญญาณโหด ควงมีดจี้บุกชิงทรัพย์แม่เฒ่าเจ้าของร้านขายของชำแต่เช้ามืด

กระหน่ำแทง-ตีเหยื่ออย่างบ้าคลั่งอาการโคม่าเย็บแผลกว่า 100 เข็ม ลูกชายวิ่งเข้าไปช่วยแม่กลับถูกตีด้วยขวดน้ำอัดลมทรุดลงไปกองกับพื้น จากนั้นขี่รถหลบหนีแต่ถูกตำรวจตามลากคอไว้ได้ทันควัน สอบสวนอ้างทำไปเพราะต้องการหาเงินซื้อยาบ้าเสพ และเครียดถูกแฟนสาวตีจากไปมีชายคนใหม่

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 3 พ.ย. พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล ผกก.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ว่ามีผู้หญิงถูกทำร้าย บาดเจ็บสาหัสมานอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.ท.อรรถชัย อุ้ยเถาวัลย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สถาพร อาภานันท์ สวป. และพ.ต.ท.วิมล สมาบัติ พนักงานสอบสวน ภายในห้องฉุกเฉินของรพ.ดังกล่าว พบร่างนางหวาน หรือหลวน เพชรคง อายุ 60 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 13 ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง ในสภาพมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมที่ลำคอด้านขวาเป็นแผลลึก 1 แห่ง ส่วนที่ใบหน้า มือ และท่อนแขนทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลถูกแทงหลายสิบแผล ตามร่างกายยังมีร่องรอยถูกทุบตีบอบช้ำอย่างหนักจนศีรษะและใบหน้าบวมเป่ง แพทย์ต้องช่วยเย็บแผลกว่า 100 เข็ม
 
สอบสวนนางหวานพอให้การได้ว่า เมื่อเวลา 04.30 น. ที่ผ่านมา ขณะตนกำลังจะเปิดร้านขายของชำ ได้มีคนร้าย 1 คน จำได้อย่างแม่นยำคือ นายวัฒนา หรือโมท มารยาท อายุ 20 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 429 หมู่ 13 ต.หัวโพธิ์ ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถมอเตอร์ไซค์อยู่ในหมู่บ้าน ได้แอบปีนเข้ามาในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ เมื่อเห็นตนก็ปรี่เข้าใช้มีดกระหน่ำแทง อย่างไม่ยั้งมือ ตนได้แต่ใช้มือปัดป้องและร้องให้คนช่วย ก่อนจะหมดแรงล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็ยกมือไหว้ร้องขอชีวิตว่าอย่าทำร้ายตนเลย อยากได้อะไรก็เอาไป แทนที่นายวัฒนาจะหยุดการกระทำอันป่าเถื่อน กลับคว้าขวดน้ำอัดลมขนาด 1 ลิตร กระหน่ำตีเข้าที่ศีรษะ ใบหน้า และตามร่างกายอย่างเมามัน ช่วงวินาทีนั้นตนเห็นว่าหากยังขัดขืนคงไม่รอดแน่ จึงหยุดร้องให้คนช่วย แล้วนอนแน่นิ่งแกล้งตาย
 
หลังจากนั้นนายวัฒนาก็ตรงไปที่โต๊ะบัญชี เพื่อรื้อค้นหาทรัพย์สินประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือหลายใบ และเงินสดจำนวนหนึ่ง

แต่ขณะหลบหนี ได้สวนทางกับนายศรีไพร ม่วงกล่อม อายุ 40 ปี ลูกชายของตน ซึ่งปลูกบ้านอยู่ติดกัน และได้ยินเสียงแม่ร้องให้คนช่วย จึงวิ่งมาดูกลับถูกนายวัฒนาใช้ขวดน้ำอัดลมตีศีรษะแตกล้มลงกองกับพื้น แล้วขี่รถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพูสลับสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป  หลังเกิดเหตุพ.ต.อ.สุทธิได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจและตำรวจฝ่ายสืบสวนฯ ออกติดตามตัวคนร้าย จนกระทั่งกำลังชุดสืบสวนได้ไล่ล่าตามหลังนายวัฒนาไปอย่างกระชั้นชิด บนถนนสายสองพี่น้อง-ท่าไชย และเมื่อถึงทางโค้ง รถของนายวัฒนาได้เสียหลักล้มลง จึงถูกจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ 22 ใบ เงินสด 2,220 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
 
สอบสวนนายวัฒนาผู้ต้องหารับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายนางหวานกับลูกชาย เนื่องจากติดยาบ้าแต่ไม่มีเงินซื้อยาบ้า

นอกจากนี้ยังมีความเครียดที่แฟนสาวได้เลิกรากันแล้วไปมีแฟนใหม่ ด้วยความเครียดและโมโห รวมทั้งอยากเสพยาบ้าแต่ไม่มีเงินซื้อจึงตัดสินใจเข้าชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้ พ.ต.ท.วิมล ดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าและชิงทรัพย์.