จากเหตุพายุฝนถล่มหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่หลายจังหวัดในภาคกลาง อีสาน และภาคเหนือ
ล่าสุด ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เย็น วันที่ 1 พ.ย. จนถึงเช้าวันที่ 2 พ.ย. ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ได้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรใน อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร โดยที่ ต.วังควง ได้รับความเสียหายมากที่สุด ไร่นาเสียหายราว 3,000 ไร่ โดยเฉพาะหมู่ 4 บ้านวังตาปลั่ง และหมู่ 12 บ้านลานทองน้อย น้ำท่วมถนนรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน รวม 80 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ส่วนที่ ต.ท่าไม้ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 2,500 ไร่ ที่ ต.ถ้ำกระต่ายทอง น้ำป่าทะลักท่วมไร่นาชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1, 2, 4, 9, และ 10 ทำให้คราบดินโคลนเกาะติดรวงข้าวเสียหาย 1,000 ไร่
และในเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย น้ำท่วมพื้นที่หลายชุมชนจนต้องขนข้าวของหนีน้ำตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา นายวุฒิชัย โชคถนอมทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพรานกระต่าย สั่งพนักงานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถแบ็กโฮขุดร่องระบายน้ำตลอดทั้งคืน และนำสัญญาณไฟติดตั้งบนถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร ซึ่งมีน้ำท่วมยาว 500 เมตร เพื่อเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทาง
ขณะที่ จ.แพร่ น้ำป่าที่ไหลมาตามห้วยรากปืน ห้วยแม่พวก ห้วยช่วงบุก ไหลมาบรรจบกันที่ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย ทำให้น้ำล้นทะลักท่วมพื้นที่หมู่ 2, 3 และ 4 อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านห้วยไร่น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร สนามกีฬา อาคารเรียน โรงอาหาร ได้รับความเสียหาย ซึ่งทหารจากกองพันทหารม้าที่ 12 อ.เด่นชัย จำนวน 50 นาย ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านและสูบน้ำที่ท่วมขังโรงเรียนบ้านห้วยไร่ออกหมดแล้ว นอกจากนี้ น้ำป่ายังกัดเซาะทางรถไฟ หลัก กม.ที่ 519/13/16 หมู่ 2 ต.ห้วยไร่ ทรุดเสียหาย ทำให้รถด่วนสายเชียงใหม่-กรุงเทพฯ และขบวนรถสินค้าที่ 4110 จากเชียงใหม่ติดอยู่ที่สถานีเด่นชัย ส่วนรถด่วนขบวนที่ 51 จากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ ติดอยู่ที่สถานีย่อยบ้านเด่น จ.อุตรดิตถ์ ต้องวิ่งย้อนกลับไปที่สถานีศิลาอาสน์ เพื่อขนถ่ายผู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมทางรถไฟที่เสียหาย 2 จุด จนสามารถเปิดเส้นทางให้รถขบวนสินค้าออกเดินทางต่อแล้ว คาดว่าจะสามารถซ่อมแซมจนเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติภายในเวลา 18.00 น. ขณะที่ว่าที่ ร.ต.พงษ์ศักดิ์ พลายเวช ผวจ.แพร่ ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ใกล้ ลำห้วยแม่น้ำสาขาต่างๆ ให้ระวังน้ำป่า เนื่องจากฝนตกหลายวัน อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้
ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ที่น้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่ทั้งอำเภออย่างรวดเร็วและรุนแรงนั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ฝนตกลงมาไม่หนัก
ทำให้ระดับน้ำไหลลงแม่น้ำเมย จนเข้าสู่สภาวะปกติในเย็นวันเดียวกันชาวบ้านทั้งในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด และพื้นที่รอบนอก ต่างวุ่นวายกับการเก็บกวาดขยะ ทำความสะอาดบ้านเรือน นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ตาก พร้อมด้วยนายเชิดศักดิ์ ชูศรี รอง ผวจ.ตาก ได้นำถุงยังชีพไปแจกชาวบ้านที่ชุมชนสองแควหนึ่ง และชุมชนสองแควสอง ในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด ก่อนจะเดินทางไปแจกถุงยังชีพที่ ต.แม่ตาว และ ต.แม่กุ ให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน