ไม่รอด - พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.456/2551 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2551 ไปจับกุมตัวนายธราพงษ์ โสตถิเสาวรภย์ หรือหนวด อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกับ ด.ช.ตุ้ย นามสมมุติ วัย 11 ปี ใช้เหล็กแป๊บฟาดหัว น.ส.ศิริรัตน์ โค้วศรีวงศ์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา |
ทุบหัวเศรษฐินีโรงไม้แม่เลี้ยงตายคาห้องนอนก่อนฉกทรัพย์ อ้างทำคนเดียว สุดท้ายพาไปจุดเกิดเหตุ ปล่อยโฮ-ก้มกราบขอขมารอยเลือด ซัดทอดเพื่อนรุ่นพ่อตัวการ ตร.ตามรวบยังปฏิเสธ-อ้างไม่รู้จัก
กรณี น.ส.ศิริรัตน์ โค้วศรีวงศ์ อายุ 38 ปี เศรษฐินีเจ้าของโรงไม้ ถูกเหล็กแป๊บฟาดศีรษะเสียชีวิตคาห้องนอน บ้านเลขที่ 77 หมู่ 2 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย เย็นวันที่ 30 ตุลาคม ต่อมาจับกุม ด.ช.ตุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ลูกเลี้ยง สารภาพแค้นถูกดุด่าและอ้างทำคนเดียวแต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกนั้น
วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า
ตอนแรก ด.ช.ตุ้ยสารภาพว่าลงมือฆ่าแม่เลี้ยง หลังสอบสวนอีก ด.ช.ตุ้ยอ้างว่าร่วมกับนายเปี๊ยก อายุ 17 เพื่อนรุ่นพี่ ชาวบ้านสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย เมื่อตำรวจตามตัวที่บ้านพักแต่ไม่พบ กลับมาสอบ ด.ช.ตุ้ยอีกครั้ง ก็บอกว่าไม่ใช่ฝีมือนายเปี๊ยกและพูดวกวนกลับไปกลับมา
"ตัดสินใจพา ด.ช.ตุ้ยไปบ้านที่เกิดเหตุ แต่ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแล้ว จึงพาไปที่ห้องนอนจุดพบศพ ทันทีที่เห็นคราบเลือดจางๆ ในที่สุด ด.ช.ตุ้ยร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงกับพื้น นั่งกราบไหว้รอยเลือดดังกล่าวและยอมบอกว่าร่วมกับ นายธราพงษ์ หรือหนวด โสตถิเสาวรภย์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 5 บ้านสามัคคี อาชีพรับจ้างทั่วไป" พ.ต.ท.ฉกาจน์กล่าว
ด.ช.ตุ้ยเล่าถึงสาเหตุว่า
ถูกผู้ตายดุด่าเป็นประจำ จึงหนีเที่ยวและติดเพื่อนรุ่นพี่จนมารู้จักนายธราพงษ์ พ่อของเพื่อนเก่าที่โรงเรียน จากนั้นชักชวนขโมยเศษเหล็กและเงินที่บ้านผู้ตายหลายครั้งเพื่อไปเที่ยวกลางคืน วันเกิดเหตุ นายธราพงษ์ชวนมาขโมยทรัพย์สินอีก คราวนี้เดินอ้อมไปหลังบ้าน นายธราพงษ์ใช้เหล็กงัดประตูเข้าไป ก่อนแยกย้ายกันหาทรัพย์ ตนเข้าในห้องทำงาน ส่วนนายธราพงษ์เข้าห้องนอนซึ่งอยู่ติดกัน
"ระหว่างนั้นแม่เลี้ยงกลับเข้าบ้าน ด้วยความตกใจผมแอบเข้าไปหลบอยู่หลังชั้นวางของ ขณะที่ผู้ตายเดินตรงเข้าห้องนอน สักครูก็ได้ยินเสียงคนใช้ของแข็งทุบตี 2 ครั้ง แล้วได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนเงียบไป" ด.ช.ตุ้ย กล่าว และว่า จากนั้นนายธราพงษ์เดินออกมาพร้อมสร้อยคอทองคำ และกำไล พร้อมตะโกนเรียกตนออกมา ก่อนวิ่งออกทางประตูหลังเช่นเดิม นายธราพงษ์ขู่ว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ส่วนทองจะนำไปขายแล้วเอาเงินมาแบ่งภายหลัง หลังแยกย้ายตนหนีไปอยู่บ้านเพื่อนก่อนถูกจับได้
ต่อมา พ.ต.ท.ฉกาจน์นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าจับกุมนายธราพงษ์ที่บ้านพักและแจ้งข้อหาว่า
ร่วมกันชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตายและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และพบนายธราพงษ์นั่งอยู่หน้าบ้าน จึงคุมตัวมาสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างไม่รู้จัก ด.ช.ตุ้ยแต่อย่างใด