สืบจากผ้าเย็น-วงจรปิด พิชิตโชเฟอร์รถทัวร์หื่น ฆ่าข่มขืนสาวบ.ประกัน


เพียงข้ามวันตำรวจเมืองสุพรรณฯ ก็สามารถจับกุมคนร้ายลงมือฆ่าข่มขืนน.ส.นฤมล ชุ่มวารี อายุ 35 ปี พนักงานบริษัทไทยประกันชีวิต สาขาอ่างทองเอาไว้ได้สำเร็จ

ลากคอคนผิดมาลงโทษจนได้!!

นายขจรศักดิ์ หรือ "กอล์ฟ" โพธิ์ศรี อายุ 22 ปี โชเฟอร์รถทัวร์ ป.2 สายกรุงเทพ-สุพรรณฯ คือคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ หลังจนมุมเจ้าตัวให้การับสารภาพว่าพยายามข่มขืนเหยื่อที่ขึ้นรถมาตามลำพังตอนเช้ามืด แต่เหยื่อสาวขัดขืนเลยบีบคอและใช้ผ้ารัดคอจนตาย แล้วนำศพไปทิ้งไว้ในพงหญ้าถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี-อู่ทอง จ.สุพรรณบุรีก่อนถูกตำรวจจับได้


หนีได้เพียงข้ามวันก็จนมุมตำรวจ




ศพของน.ส.นฤมลถูกพบในตอนบ่ายวันที่ 29 ต.ค. เมื่อตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวบริเวณพงหญ้าข้างทาง ถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี-อู่ทอง หมู่ที่ 3 ต.ท่าระหัด ร.ต.ท.ประพันธ์ จำปานวน ร้อยเวรฯ จึงรายงานพ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผกก.สภ.เมืองสุพรรณฯ รับทราบ พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราชและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเณรแก้วรุดไปตรวจสอบทันที

เกิดคดีฆ่าข่มขืนขึ้นแล้วที่จ.สุพรรณบุรี

ที่นั่นพบร่างน.ส.นฤมล ชุ่มวารี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244/62 หมู่ที่ 4 ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พนักงานบริษัทไทยประกันชีวิต สาขาอ่างทอง แผนกพิจารณาอนุมัติสินไหมทดแทน ถูกฆ่าตายในสภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางสีฟ้า สลับขาว ถูกฉีกกระชากจนเห็นหน้าอก ข้อมือถูกมัดด้วยผ้าขาวม้าสีแดง ลำคอถูกมัดด้วยผ้าเย็นแบบผ้าขนหนูสีขาว ที่ปลายเท้าพบชุดชั้นในติดอยู่ กระโปรงสีเทาถูกถลกขึ้นถึงเอว ตำรวจจึงทำบันทึกไว้ก่อนส่งศพไปผ่าพิสูจน์อีกที


เจ้าหน้าที่รีบหาข้อมูลผู้ตายก่อนอันดับแรก

คนใกล้ชิดน.ส.นฤมลให้ข้อมูล ว่า "นฤมล" เป็นคนดีและยังเป็นโสด มีดีกรีเรียนจบในระดับชั้นปริญญาโท เพิ่งย้ายมาทำงานที่จ.อ่างทองได้เพียง 6 เดือน และพักอยู่กับแม่ที่จ.สุพรรณบุรี ปกติจะเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานด้วยรถประจำทาง เพื่อนร่วมงานพบน.ส.นฤมลครั้งสุดท้ายตอนเย็นวันที่ 28 ตุลาคม หลังจากนั้นทราบข่าวอีกทีก็ถูกฆ่าตายกลายเป็นศพ

ตำรวจจึงลงบันทึกไว้



เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าหาข้อมูลต่อไป โดยญาติของน.ส.นฤมลเล่าว่า ในตอนเช้าวันที่ 29 ตุลาคม "นฤมล" แต่งตัวไปทำงานตามปกติ โดยไม่มีพิรุธอะไร ซึ่ง "นฤมล" จะใช้บริการรถโดยสารสาย กรุงเทพฯ-สุพรรณฯ เพื่อไปทำงานที่จ.อ่างทองเป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงมุ่งประเด็นไปที่กลุ่มรถโดยสารประจำทางก่อนอันดับแรก

อย่างน้อยพวกนี้ก็ต้องรู้เบาะแส!??

คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.7. ลงมาวางแผนคลี่ลคายคดีด้วยตัวเอง ผู้บัญชาการฯ ถวิล มอบหมายให้ผู้กำกับฯ ชัยรัตน์ จัดชุดสืบสวนเมืองสุพรรณฯ ออกแกะรอยคนร้ายทันที เริ่มจากการสังเกตรถโดยสารประจำทางที่วิ่งผ่านเส้นทางของผู้ตายในช่วงตี 5 ก่อน กระทั่งพบว่ามีรถทัวร์ ป.2 สายกรุงเทพ-สุพรรณฯ สีน้ำเงินคาดขาว เบอร์ข้างรถ 951-7 หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 10-0959 อ่างทอง ขับผ่านมาในช่วงเวลานี้ และนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดจำนวน 14 ตัวที่ติดตั้งไว้ทั่วตัวเมืองจ.สุพรรณบุรี ก็พบภาพรถทัวร์คันนี้ขับวนไปมาอย่างน่ามีพิรุธอีกด้วย

เป้าจึงพุ่งไปที่รถทะเบียน 10-0959

และนอกจากนี้ ผ้าขนหนูสีขาวที่พบในศพ ก็เป็นผ้าเย็นผืนใหญ่ที่บรรดาเด็กรถและคนขับรถทัวร์นิยมใช้กัน ดังนั้น เจ้าของรถทัวร์ก็น่าจะให้ความกระจ่างได้


เช้าวันรุ่งขึ้นตำรวจจึงรุดเข้าตรวจสอบรถทัวร์คันดังกล่าวทันที ปรากฏว่าพบคราบเลือดติดอยู่ที่บันไดทางขึ้นหน้ารถ และพบสิ่งของต้องสงสัยหลายอย่าง ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงเชิญตัวนายสุริยา เตมะวงศ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ที่ 3 ตำบลสนามชัย อำเภอเมืองสุพรรณ เจ้าของรถคันนี้มาสอบปากคำ โดยนายสุริยาให้การว่า ปกติตนกับนายขจรศักดิ์ หรือ "ไอ้กอล์ฟ" มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 164/1 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จะผลัดกันขับรถคันนี้ ในช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้ขับแต่นายขจรศักดิ์เป็นคนขับไปกับเด็กท้ายรถที่ชื่อนายหมู ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปที่ "ไอ้กอล์ฟ" ทันที

"ไอ้กอล์ฟ" จนมุมเจ้าหน้าที่ในเวลาต่อมา



หลังได้ตัวไอ้กอล์ฟเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวน ซึ่งในตอนแรกหมอนี่ให้การปฏิเสธตลอดข้อหา บอกไม่ได้ขับรถรับผู้ตายและไม่ได้ขับไปตามาเส้นทางทิ้งศพ แต่สุดท้ายไอ้กอล์ฟก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อหลักฐานทุกอย่างไปปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพรถบัสเอาไว้ได้

เท่านั้นไอ้กอล์ฟจึงยอมเปิดปากสารภาพ

"ตี 5 ของวันที่ 29 ตุลาคม ผมขับรถออกรับผู้โดยสารตามปกติ ไปกับไอ้หมูเด็กท้ายรถ ระหว่างทางแวะรับผู้ตายที่จะเดินทางไปทำงาน ทั้งรถมีเธอขึ้นมาคนเดียว จึงวางแผนข่มขืน เมื่อขับรถมาถึงปั๊มน้ำมันโมบิลในตัวเมือง จึงไล่เด็กท้ายรถลง เหลือผมกับเธอสองคน จึงขับรถแล่นมาตามถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท เมื่อถึงปั๊มน้ำมันดาวสะอาด ในเขตตัวเมืองสุพรรณฯ จึงหยุดรถแล้วเดินไปหาผู้ตายที่อยู่ด้านท้าย พร้อมเปิดเพลงในรถให้เสียงดังเพื่อกลบเสียงผู้ตาย จากนั้นจึงขู่บังคับให้ถอดเสื้อผ้า โดยใช้ผ้าขาวม้ามัดมือผู้ตายไว้และพยายามข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืนต่อสู้ จึงได้สำเร็จความใคร่ตัวเองแทน

"หลังจากนั้นผมจึงกลับรถที่บริเวณจุดกลับรถหน้าปั๊มดาวสะอาด ระหว่างนั้นได้พยายามพูดคุยกับผู้ตาย เพื่อไม่ให้เข้าแจ้งความ พร้อมใช้ผ้าขนหนูมัดปากผู้ตายไว้ จากนั้นจึงขับรถไปเติมแก๊สที่บริเวณปั๊มปตท. เลี่ยงเมือง แต่ยังไม่ทันถึงพบว่าผู้ตายพยายามช่วยเหลือตัวเอง ดิ้นรนจนผ้าขาวม้าหลุด จึงได้จอดรถอีกครั้งที่บริเวณหน้าเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี และเข้าไปพูดคุยกับผู้ตายอีกครั้ง แต่เกิดไม่เชื่อใจกลัวว่าผู้ตายจะไปแจ้งความ จึงใช้มือบีบคอผู้ตายจนหมดสติ เมื่อเห็นว่าตายจึงนำศพไปทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุก่อนนำทรัพย์สินของผู้ตายไปทิ้งในคลองตรงข้ามเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วหลบหนีกลับไปที่บ้านพักในอำเภอศรีประจันต์กระทั่งถูกจับได้" นายขจรศักดิ์ ให้การ

ตำรวจแจ้งข้ออหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนทันที



หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่นำตัว "ไอ้กอล์ฟ" ไปชี้จุดทิ้งทรัพย์สินของผู้ตาย และงมของกลางขึ้นมาได้ในภายหลัง ซึ่งการกระทำครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลต่อไป ว่าจะมีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะเป็นการยากที่ไอ้กอล์ฟจะลงมือทำคนเดียวได้

สำหรับศพของน.ส.นฤมล ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดไชนาวาส ท่ามกลางความเศร้าใจของญาติและเพื่อนร่วมงานซึ่งทุกคนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้

บางคนถึงขนาดสาปแช่งให้คนร้ายตายตกไปตามกันเพื่อรับผลกรรมในครั้งนี้

กฎหมายกำลังรอลงโทษอยู่!!

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์