สี่กะเทยเมืองลพบุรีสิ้นท่า ถูกรวบยกแก๊ง หลังก่อเหตุย่องลักทรัพย์หนุ่มอเมริกันในค่ายทหาร ขณะเข้าร่วมฝึกซ้อมรบผสมระหว่างกองทัพบกไทยกับสหรัฐอเมริกา เผยตามของกลางคืนได้เกือบครบ ขาดเพียงเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ส่วนเงินสดไทย-ดอลลาร์ ผู้ต้องหาอ้างแบ่งกันใช้เกลี้ยงหมดแล้ว
หลังจากเกิดเหตุการณ์ชาวต่างชาติถูกแก๊งกะเทยลักทรัพย์ที่ จ.ลพบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลพบุรีต้องออกควานหาตัวคนร้าย และในที่สุดก็สามารถจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จากการนำทีมของ พล.ต.ต.สถิตย์ ต้นสงวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี พ.ต.ท.พรชัย ไข่สนอง รองผู้กำกับ กลุ่มงานสืบสวน พ.ต.ท.ศาวุธ ภูมิวรัตน์ สารวัตรกลุ่มงานสืบสวน และ ร.ต.ต.กิตฐิพงษ์ ชูเมือง ร้อยเวร เจ้าของคดี สภ.เมืองลพบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมด 4 คน ทั้งหมดเป็นสาวประเภทสอง ได้แก่ นายปัญญา บัวสิงโต อายุ 25 ปี หัวหน้าแก๊ง นายชล (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายชา (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และนายวัด (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งหมดมีที่พักอาศัยอยู่ใน อ.เมือง จ.ลพบุรี พร้อมของกลางได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง หนังสือเดินทาง 1 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 5 ใบ กระเป๋าหนังสีดำ 1 ใบ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายโทมัส โจวิลเลียม ซึ่งเป็นหนึ่งในทหารฝึกผสมระหว่างกองทัพบกไทยกับสหรัฐอเมริกา ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ต.กิตฐิพงษ์ ชูเมือง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 17 ตุลาคม ขณะที่นอนพักผ่อนอยู่ในห้องพักพร้อมกับเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งในค่ายทหารแห่งหนึ่ง มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามาขโมยทรัพย์สินไป โดยทรัพย์สินที่หายไป ได้แก่ กระเป๋าหนังสีดำ ภายในมีเงินไทย 2 หมื่นบาท เงินดอลลาร์สหรัฐ 700 ดอลลาร์ กล้องถ่ายรูป 1 ตัว บัตรเอทีเอ็ม 5 ใบ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม 1 เครื่อง ใบอนุญาตดำน้ำ 3 ใบ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ต.สถิตย์ ต้นสงวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวนภูธรจังหวัดลพบุรี ออกติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นแก๊งสาวประเภทสอง ซึ่งเข้าไปในค่ายทหารดังกล่าวหลายครั้ง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งกะเทยดังกล่าว จนกระทั่งได้จับกุมนายชาและนายวัด แล้วนำมาสอบสวนขยายผลการจับกุม
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายชลกับนายปัญญา เข้าไปภายในค่ายทหารดังกล่าว และขโมยทรัพย์สินของชาวต่างชาติจริง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมนายชลกับนายปัญญามาดำเนินคดี
ทั้งนี้ ทรัพย์สินของผู้เสียหายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามทรัพย์สินมาได้เกือบครบ แต่สิ่งที่ยังติดตามไม่ได้คือ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ส่วนเงินสดและเงินดอลลาร์สหรัฐผู้ต้องหาแบ่งกันและนำไปใช้หมดแล้ว