เมืองชลบุรีลุกเป็นไฟอีกครั้งเมื่อเกิดเหตุคนร้ายควงปืนยิงถล่มอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สิ้นใจตายทั้ง 2 ราย
เกิดเหตุร้ายขึ้นในเมืองชลอีกจนได้!!?
นายอุทัย มณีรัตน์โรจน์ หรือ "ส.จ.คี้ บ้านบึง" อายุ 61 ปี อดีตส.อบจ.ชลบุรี และอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคชาติไทยสมัยที่แล้ว และยังเคยเป็นส.ส.พรรคไทยรักไทยมาแล้ว 1 สมัย กับนายศุภชัย น้าวัฒนไพบูลย์ หรือ "นายกคิ้ม" อายุ 60 ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี คือเหยื่อกระสุนปืนในครั้งนี้
โดยนายอุทัย ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ท้ายทอยและต้นคอ เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนนายศุภชัย ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะและใบหน้ารวม 7 นัด เสียชีวิตคาที่เช่นกัน
ชลบุรีกำลังจะลุกเป็นไฟ
ย้อนไปดูเหตุฆ่ากันตายครั้งนี้ เกิดขึ้นตอน 4 ทุ่ม วันที่ 28 ต.ค. ตำรวจสภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันตาย 2 ศพที่ริมถนนสาย 3138 (บ้านบึง-บ้านค่าย) หลักกิโลเมตรที่ 5-6 หมู่ 1 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ฝั่งขาเข้าตัวอำเภอบ้านบึง พ.ต.ต.ดำรง นามเขต สารวัตรเวรฯ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อุดม จันทร์พิทักษ์ พ.ต.อ.จำนงค์ รัตนกุล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ธนสาร สุริวงศ์ ผกก.สภ.บ้านบึง พ.ต.ท.อำนาจ ศิริบุญบันดาล สวญ.สภ.คลองกิ่ว พ.ต.ท.กมลชัย จิตรีสรรพ สว.สส. รับทราบรุดไปตรวจสอบทันที
ชลบุรีแดนเดือด! คุ้ยปมถล่มฆ่า 2 ศพ อดีตส.ส.คี้ บ้านบึง
ที่นั่นพบรถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ศฉ 6446 กทม. พุ่งตกจากไหล่ทางลงไปในป่ากระถินลึกร่วมร้อยเมตร สภาพรถพังยับเยิน โดยที่ตัวรถมีรูกระสุนพรุนไปทั่ว กระจกด้านหน้าถูกยิงเป็นทางยาว ด้านข้างก็ถูกยิงพรุนหลายรูเช่นกัน
ในนั้นมีคนตาย 2 ศพ!!
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะชันสูตรพลิกศพนายอุทัย ที่โดนยิงถล่มด้วยอาวุธปืนลูกซอง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกซอง 5 นัด กลุ่มกระสุนพุ่งเจาะเข้าที่ท้ายทอยและต้นคอตัดเส้นเลือดใหญ่ เป็นแผลฉกรรจ์ ร่างฟุบลงไปกับพวงมาลัยรถ ใกล้กันเป็นร่างอันไร้วิญญาณของนายศุภชัย คนสนิทของนายอุทัย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันกระสุนเข้าบริเวณศีรษะและใบหน้านอนตายจมกองเลือดอยู่ในสภาพฟุบตัวลงไปทับกัน
เป็นภาพอันชวนสยองขวัญ
พยานให้การว่า ผู้ตายทั้ง 2 เพิ่งเดินทางกลับจากงานเลี้ยงส่ง นายเจริญ อินทารักษ์ ผอ.โรงเรียนคลองกิ่วยิ่งวิทยา ต.คลองกิ่ว ที่จะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านพักในอ.บ้านบึง เลยถูกคนร้ายที่ติดตามมาจากงานขับรถตามประกบ พอสบโอกาสคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่จนรถตกลงไปข้างทางจนถึงแก่ความตาย ซึ่งการสังหารเหยื่อครั้งนี้คนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ขับแซงซ้ายก่อนจะสาดกระสุนใส่เหยื่อทั้ง 2 ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.บ้านบึง หายเข้ากลีบเมฆไป โดยตำรวจจะได้ติดต่อขอหลักฐานภาพถ่ายจากกล้องวิดีโอและกล้องภาพนิ่งในงานเลี้ยง เพื่อหาดูบุคคลต้องสงสัยนำมาขยายผลต่อไป
คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นคดีใหญ่ คนร้ายลงมืออย่างเหี้ยมโหด พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิตติวัฒน์ ผบช.ภ.2 จึงลงมาวางแผนคลี่คลายคดีด้วยตนเอง เรียกพล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.จำนงค์ รัตนกุล รอง ผบก. และกำลังที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมประสานตำรวจกองปราบปรามช่วยลงมาสะสางคดีอีกทาง
ตำรวจเดินหน้าล่าคนร้ายทันที
เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน คือทีมสืบสวนและสอบสวน ทำงานประสานกัน กระจายกำลังออกหาข่าวในพื้นที่ โดยทีมสืบลงควานหามือปืนตามซุ้มต่างๆ ในจ.ชลบุรี และใกล้เคียง ให้ความสำคัญไปที่กลุ่มมือปืนที่ถนัดใช้อาวุธปืนลูกซอง 5 นัดเป็นหลัก
ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มคนมีสี
คนร้ายมีความชำนาญในการใช้ปืนลูกซองออโต้เป็นอย่างดี!!?
ในขณะที่ประเด็นการสังหาร ทีมสอบสวนมุ่งไปที่ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ ปัญหาการเมืองท้องถิ่น และการรับเหมาถมที่ดินและรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจในครอบครัวที่ผู้ตายทั้งสองทำอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องปัญหาที่ดินซึ่งผู้ตายเข้าไปรับงานถมที่ในนิคมเหมราช อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จำนวนกว่า 5,000 ไร่ มีมูลค่านับพันล้านบาท ซึ่งอาจขัดแย้งกับผู้ที่เสียผลประโยชน์เป็นได้
ตำรวจจะได้ขยายผลหาข้อเท็จจริงต่อไป
สำหรับพฤติการณ์คนร้าย ตำรวจมั่นใจว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คน เฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาตั้งแต่ในงานเลี้ยงส่งผอ.โรงเรียนคลองกิ่วยิ่งวิทยา พอสบโอกาสจึงลงมือฆ่าทันที โดยคำสั่งตายครั้งนี้คาดว่าจอมบงการสั่งเก็บทั้ง 2 คน เนื่องจากทั้งคู่สนิทสนมกันดี
หากปล่อยคนใดคนหนึ่งรอดอาจก่อให้เกิดปัญหาได้
สำหรับประวัติของนายอุทัย หรือ ส.จ.คี้ เคยเป็นส.ส.ชลบุรี พรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2549 หลังถูกคมช.รัฐประหารก็ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย จากนั้นลงมาสมัครเลือกตั้งส.ส.ชลบุรี เขต 3 อีกสมัย แต่สอบตก นอกจากเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและระดับประเทศแล้ว ส.จ.คี้ ยังทำธุรกิจก่อสร้างรับเหมาถมที่ใน จ.ชลบุรี และใกล้เคียง ซึ่งมีการประมูลงานแข่งกันในเงินหลักร้อยล้านบาทจึงอาจทำให้มีศัตรูรอบตัว ส่วนนายศุภชัย ก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและทำธุรกิจที่ดินเช่นกัน ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน และมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ
จนกระทั่งมาพบจุดจบในครั้งนี้!?!