เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ต.ค. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน บก.ปส.2
ร่วมแถลงผลการจับกุมนายกิตติ เลี้ยงอยู่ อายุ 34 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 42/4 ม.6 ต.หลักสอง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางยาบ้า 277,600 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราดา สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน คจ 4380 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ท.วุฒิกล่าวว่า สืบเนื่องจากฝ่ายสืบสวนของ บก.ปส.2 บช.ปส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายทุนค้ายาบ้าได้ว่าจ้างกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เตรียมไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี
โดยใช้รถกระบะมิตซูบิชิคันดังกล่าวซุกซ่อนยานรกไปตามเส้นทางสายกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี ผ่านทาง อ.บางปลาม้าจ.สุพรรณบุรี ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา จึงได้ประชุมและวางแผนการจับกุม โดยมอบ หมายให้ พ.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบก.ปส.2 และ พ.ต.ท.ประสพชัย เสวกพันธุ์ รอง ผกก.2 บก.ปส.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนประสานงานกับตำรวจภูธร สภ. บางปลาม้า และ สภ.ศรีประจันต์ และจับกุมนายกิตติได้ พร้อมของกลางขณะขับรถกระบะคันดังกล่าว โดยจับกุมได้ที่ถนนสายกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสุพรรณบุรี บริเวณหลัก กม.66
จากการสอบสวนนายกิตติให้การรับสารภาพว่า ก่อนที่จะมารับจ้างขนยาบ้า มีอาชีพเลี้ยงกุ้งและปลาสลิด อยู่ที่ ต.โพธิ์ทะ จ.ราชบุรี แต่ขาดทุน
จึงรับการว่าจ้างจากคนที่รู้จักกัน ให้มาทำงานรับจ้างลำเลียงยานรกไปส่งให้ลูกค้า แล้วแต่คนที่เป็นนายทุนจะสั่งเป็นครั้งคราว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยรับจ้างจากนายแทน ไม่ทราบนามสกุล บอกว่าให้ขับรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อนำยาบ้าไปส่งให้กับเพื่อนนายแทนอีกทอดหนึ่ง ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ยานรกลอตนี้ขนมาจากภาคเหนือลงมาพักไว้ในกรุงเทพฯ ก่อนที่นายแทนจะสั่งให้ขับรถมาตามเส้นทางมุ่งหน้าไป จ.สุพรรณบุรี โดยโทรศัพท์สั่งการให้ ขับไปรออยู่ในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ระหว่างนั้นนายแทนได้โทร.มาแจ้งว่ามีด่านตำรวจตั้งอยู่ด้านหน้า ให้ตนขับรถย้อนศรออกจากปั๊มน้ำมันเอสโซ่ และนำยาบ้าไปโยนทิ้งที่ กม.66 ก่อนที่จะถูกตำรวจบุกเข้าจับกุม
ด้าน พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปส. กล่าวว่า นายทุนที่เป็นตัวการรายนี้ เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น เป็นคนละรายกับแก๊ง “แทน บางบ่อ”
ที่ถูกชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.เข้าจับกุม และแทน บางบ่อ หลบหนีไปได้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ วิเคราะห์ข่าวของ บช.ปส.ตรวจสอบข้อมูลและเครือข่ายกลุ่มนี้แล้ว เพื่อจะได้วางแผนดำเนินการปราบปรามต่อไป