โจรกรุงก่อเหตุวิ่งราวเงิน2แสนเหยื่อเป็นสองผัวเมียเจ้าของบริษัทอสังหาฯไปเดินเที่ยวงานที่อิมแพ็คเมืองทอง
ขากลับพากันมานั่งกินบะหมี่เกี๊ยวใกล้บ้าน ปากซอยนวลจันทร์ เมียเอากระเป๋าสะพายวางไว้บนโต๊ะ เจ้าของร้านบะหมี่เตือนให้ระวังเพราะเห็นชาย 2 คนมาด้อมๆ มองๆ แบบมีพิรุธ อาศัยจังหวะทีเผลอวิ่งเข้ามาฉกกระเป๋า ก่อนวิ่งหนีไปขึ้นจยย.ที่คนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ ฝ่ายผัวพยายามไล่ตามแต่ไม่ทัน จำได้แต่ทะเบียนรถ เข้าแจ้งความตร.เป็นเบาะแสจับกุมดำเนินคดี
สองผัวเมียนักธุรกิจแจ้งความถูกโจรวิ่งราวเงิน 2 แสนครั้งนี้ เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 26 ต.ค.
นายกฤษฎา กวินวัฒนพัฒน์ อายุ 39 ปี และนางปริยดา กวินวัฒนพัฒน์ อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบริษัท อินเตอร์ โฮม เรียลตี้เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เดินทางเข้าแจ้งความกับร.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วทอง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โคกคราม หลังถูกคนร้ายวิ่งราวกระเป๋าสะพาย ภายในมีทรัพย์สิน และเงินสดรวมเกือบ 3 แสนบาท เหตุเกิดบริเวณปากซอยนวลจันทร์ 20 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
แวะกิน-โดนวิ่งราว หมี่เกี๊ยวชาม2แสน
นางปริยดาให้การว่า ตนกับสามีพร้อมกับญาติรวม 5 คน เดินทางไปเที่ยวงานโฮมโปร เอ็กซ์โป ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้ซื้อเครื่องเสียงและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน หมดเงินไปจำนวนหลายแสนบาท
แต่เป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ส่วนที่มีเงินสดจำนวน 2 แสนบาทในกระเป๋านั้นเพราะต้องนำเงินดังกล่าวไปโอนให้ญาติผู้ใหญ่ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ธนาคารทั่วไปปิดทำการ ตนจึงคิดว่าจะนำไปโอนที่ธนาคารภายในห้างสรรพสินค้า โดยตั้งใจจะไปโอนเงินหลังเที่ยวงานโฮมโปรเสร็จแล้ว แต่ปรากฏว่าได้ช็อปปิ้งจนเพลินจึงไม่ได้โอนเงิน
นางปริยดากล่าวอีกว่า หลังซื้อของเสร็จแล้วตนพร้อมสามีและญาติจึงเดินทางกลับบ้านพักภายในซอยนวลจันทร์ 16
ระหว่างกลับบ้านได้แวะกินบะหมี่ที่ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว บริเวณปากซอยนวลจันทร์ 20 ตนกับสามีนั่งด้วยกัน ส่วนญาติอีก 3 คนนั่งโต๊ะข้างกัน ตนนำกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลยี่ห้อฟลายนาววางไว้บนโต๊ะ ในกระเป๋านอกจากทรัพย์สินเงินสดจำนวน 2 แสนบาทแล้ว ยังมีแคชเชียร์เช็คใบละ 47,000 บาท 1 ใบ และใบละ 30,000 บาท 1 ใบ รวม 2 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย ซึ่งมีเงินในบัญชีจำนวน 2 ล้านบาท และยังมีบัตรเครดิตอีกจำนวนหนึ่ง
เหยื่อวิ่งราวกล่าวต่อว่า นำกระเป๋าติดใกล้ตัวตลอดเพราะมีเงินเยอะ จะเอาไว้ในรถยังไม่กล้าเอาไว้
และระหว่างที่ทานบะหมี่อยู่นั้นแม่ค้าขายบะหมี่ได้เตือนให้ระวังตัว เพราะสังเกตเห็นมีผู้ชาย 2 คนมาด้อมๆ มองๆ หลายรอบแล้ว ตนระวังตัวตลอดเวลา จากนั้นไม่นาน 1 ในคนร้ายได้วิ่งมาหยิบกระเป๋าของตนที่วางไว้บนโต๊ะช่วงที่เผลอ แล้ววิ่งหนีไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรอไว้หลบหนีไปทางถนนนว มินทร์ สามีพยายามไล่ตามโดยเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างแต่ไม่ทัน แต่สามีจำหมายเลขทะเบียนรถของคนร้ายได้ คือ กสอ 667 กทม.
ร.ต.ท.สมศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำแม่ค้าขายบะหมี่ที่ยืนยันว่าจดจำหน้าคนร้ายได้ เพื่อเป็นข้อมูลด้านรูปพรรณสัณฐานในการติดตามตัวจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป