หมอเผยอาการน.ศ.เหยื่อรับน้อง "โคม่า" เยื่อสมองตาย ถ้าปาฏิหารย์ก็เป็นเจ้าชายนิทรา อาจารย์เพิ่งโผล่เยี่ยม ตั้งกก.ช่วยเหลือค่ารักษา ตร.เร่งสอบเอาผิดรุ่นพี่เพิ่ม ปธ.สภาการศึกษาเอกชนเตรียมชงที่ประชุมออกกฎห้ามร.ร.เอกชนรับน้องนอกสถานที่
จากกรณีรุ่นพี่โรงเรียนโปลีเทคนิคกรุงเทพฯ นำนักศึกษา ชั้นปวช.ปี 1 และ ปี 2 จัดกิจกรรมรับน้องบริเวณชายหาดบังกะโล หาดวงจันทร์ หมู่ 2 ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา และบังคับให้รุ่นน้องกอดคอและทิ้งน้ำหนักตัว โดยให้ศรีษะกระแทกลงพื้นทรายหลายครั้ง หรือการ "ทิ้งดิ่ง" ส่งผลให้นายนิโรจน์ศักดิ์ หรือโอ อินทโชติ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 ถ.ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นักศึกษาชั้น ปวช. ปี 1 แผนกช่างไฟฟ้า ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสมองบวมและเลือดคั่งในสมองเป็นเจ้าชายนิทรานั้น
ตร.เร่งสอบเอาผิด "รุ่นพี่" เพิ่ม
พ.ต.อ.ประภากร ริ้วทอง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กล่าวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมว่า จากการตรวจสอบสำนวนคดีนี้พบว่า กรณีดังกล่าวน่าจะมีผู้ร่วมกระทำผิดมากกว่า 1 คน เบื้องต้นจะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนติดตามหาหลักฐานและพยานเพิ่ม เพื่อดูว่ามีบุคคลอื่นที่เข้าข่ายความผิดด้วยหรือไม่ หากพบจะต้องนำตัวดำเนินคดี
ด้าน น.ส.ณัฐกาญจน์ ศรีคลัง อายุ 20 ปี อดีตนักศึกษารุ่นพี่โรงเรียนโปลีเทคนิค กรุงเทพฯ ที่ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งถูกจับเป็นคนแรก ภายหลังมีพยานระบุเป็นผู้ออกคำสั่งให้รุ่นน้องทิ้งดิ่งและถูกควบคุมตัวที่ สภ.หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี เป็นวันที่สองนั้น ล่าสุด ยังไม่มีญาติมาขอประกันตัวแต่อย่างใดและเจ้าตัวปฏิเสธให้สัมภาษณ์
เหยื่ออาการแย่ เยื่อสมองตายหมด
ส่วนที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี นพ.สมศักดิ์ พรพรรณรัตน์ แพทย์ที่รักษานายนิโรจน์ศักดิ์ กล่าวว่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ร่างกายผู้ป่วยไม่มีอาการตอบสนอง อยู่ในช่วงโคม่า มีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก นอกจากนี้ ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ หากถอดเครื่องช่วยหายใจ จะเสียชีวิตทันที แต่หากเกิดปาฎิหารย์รอดชีวิต ก็ต้องเป็นเจ้าชายนิทรา เนื่องจากเนื้อเยื่อสมองตายหมดแล้ว
อจ.เพิ่งโผล่เยี่ยม ตั้งกก.ช่วยค่ารักษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัฒน์ชัย เอี่ยมสะอาด อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนโปลีเทคนิค กรุงเทพฯ ได้เป็นตัวแทนนายดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล ผู้อำนวยการ มาเยี่ยมอาการนายนิโรจน์ศักดิ์ที่โรงพยาบาลและกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนการช่วยเหลือของโรงเรียนนั้น จะนำรายละเอียดถึงเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดและอาการของนายนิโรจน์ศักดิ์เข้าที่ประชุมคณะอาจารย์ที่โรงเรียนเพื่อมีมาตรการช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่นายสมเกียรติ กิจพาณิชย์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนโปลีเทคนิคกรุงเทพ กล่าวว่า โรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการจากนักเรียนและครู เพื่อระดมทุนช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายการรักษานายนิโรจน์ศักดิ์ ขณะเดียวกันได้ส่งอาจารย์ฝ่ายปกครองไปดูแลนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งหารือถึงการย้ายเข้ามารักษาในกรุงเทพฯ
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังหาข้อมูลรายละเอียด คาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 27 ตุลาคม และจะแถลงให้สื่อมวลชนทราบ เบื้องต้นได้รายชื่อนักเรียนชั้นปี 1 และชั้นปี 2 จากตำรวจแล้ว รวม 8 คน ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปยังผู้ปกครองก็จะบ่ายเบี่ยงว่าลูกไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่เปิดเทอมวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ โรงเรียนจะมีวิธีสอบถามความจริงจากเด็ก เพื่อนำข้อมูลเป็นประโยชน์ทางคดี" นายสมเกียรติ กล่าว
นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งไปเยี่ยมอาการนายนิโรจน์ศักดิ์ด้วย กล่าวว่า ทางจังหวัดจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมเตือนผู้ประกอบการบ้านพักตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ว่า ต่อไปนี้ หากพบเห็นการทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่แบบผิดปกติ ให้รีบแจ้งตำรวจเพื่อตรวจสอบโดยด่วน เพื่อป้องปรามมิให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเช่นนี้อีก
ส่วนบทลงโทษของโรงเรียนนั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า อาจต้องพักการเรียน ทราบว่ารุ่นพี่ซึ่งเป็นศิษย์เก่าไปอยู่สถาบันอื่นแล้ว โดยเชื่อมโยงกันเป็นเพียงกลุ่มเด็กบ้านใกล้กันชักชวนกันไป บางคนไม่รู้จักรุ่นพี่ด้วยซ้ำ สำหรับมาตรการป้องกันนั้น โรงเรียนมีกฎมาตลอดว่า ห้ามรับน้องเด็ดขาด เพราะโรงเรียนจะมีพิธีช่วงเปิดเทอมต้น ใช้ชื่อว่า "พิธีรักน้อง" โดยนิมนต์พระมาเทศน์สั่งสอน มีผู้ปกครองมาร่วมพิธี ร่วมกิจกรรม สอนให้เด็กรู้จักเคารพ ให้เด็กซาบซึ้งใจ มีความรักกันในระหว่างพี่น้อง
"พี่ชาย"เสียใจ จะบวชให้เมื่อเสร็จคดี
นายณัฐพล อินทโชติ อายุ 18 ปี พี่ชายนายนิโรจน์ศักดิ์ ซึ่งศึกษาอยู่สถาบันศึกษาเดียวกันและเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องครั้งนี้ กล่าวว่า นอกจากรุ่นพี่ได้สั่งรุ่นน้อง "ทิ้งดิ่ง"แล้ว ยังสั่งให้รุ่นน้องทำท่า "จรวด" โดยให้นั่งคุกเข่ามือไขว้หลัง แล้วรุ่นพี่จะวิ่งเข้าใส่พร้อมกระโดดเอาเข่าทั้งสองข้างกระแทกที่หน้าอก หากใครล้มจะถูกลงโทษโดยการทิ้งดิ่ง หากรุ่นน้องผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้ ถือว่ามีความอดทน จะได้เสื้อช็อปไปใส่
"ขณะทิ้งดิ่งมีเพื่อนหลายคนคางแตก ปากแตก ฟกช้ำดำเขียวตามลำตัว เนื่องจากถูกรุ่นพี่ตบ เตะ กระชากลาก ผมเสียใจมาก และยินดีเป็นพยานเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ ส่วนผมจะไม่ไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อีก และหลังเสร็จคดีจะบวชให้น้องชาย เพื่อหายเป็นปกติโดยเร็ว" นายณัฐพล กล่าว
สช.บอกถ้ารร.รู้เห็น ถึงขั้นยึดใบอนุญาต
นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยว่า สช. ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน อยู่ระหว่างการเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำที่ สช. หากได้ข้อสรุปว่าโรงเรียนมีส่วนรู้เห็นจะต้องถูกลงโทษ มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ให้หยุดพักการเรียนการสอน และยึดใบอนุญาต ยืนยันว่า ในทุกต้นปีการศึกษา สช. ได้มีหนังสือกำชับไปยังสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งให้ดูแลการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่อย่างเข้มงวด ไม่ใช่มาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแบบวัวหายล้อมคอก ทั้งนี้สำหรับผู้บริหารโรงเรียนนั้นยังไม่สามารถติดต่อสอบถามอะไรได้เพราะอยู่ต่างประเทศ
นายบัณฑิต กล่าวว่าสช. ยินดีช่วยเหลือครอบครัวนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ส่วนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุนั้น ได้ประสานกับตำรวจให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าเด็กก่อเหตุนั้นเป็นเด็กรุ่นพี่ที่จบการศึกษาไปแล้ว
ชงกฎห้ามรร.เอกชน รับน้องนอกสถานที่
นางจิระพันธ์ พิมพันธุ์ ประธานสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวที่ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ในสัปดาห์หน้าจะเข้าประชุมร่วมกับนายกสมาคมโรงเรียนเอกชน และหารือร่วมกันถึงแนวทางปัญหากรณีรับน้องรุนแรงเกินเหตุรายล่าสุด ข้อสรุปที่ได้จะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อลงนามใช้เป็นกฎระเบียบของโรงเรียนเอกชนต่อไป และสิ่งที่จะเสนอเพิ่ม คือ สั่งห้ามไม่ให้มีการรับน้องนอกสถานที่ ให้ทำกิจกรรมภายในโรงเรียนเท่านั้นโดยมีครูผู้สอนดูแลอย่างใกล้ชิด
นางจิระพันธ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้าเรียนในสถานศึกษาของเอกชนทั่วประเทศ เพราะถูกมองว่ามาตรฐานดูแลความปลอดภัยนักเรียนแย่เหมือนกัน แท้จริงแล้วโรงเรียนเอกชนหลายแห่ง มีมาตรฐานการดูแลความปลอดภัย รวมถึงความเข้มงวดกับกิจกรรมรับน้องมากกว่าโรงเรียนของรัฐเสียอีก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นได้ส่งผลทางลบกับโรงเรียนเอกชนเช่นกัน
ศธ.ดูแลไม่ทั่วถึง ผู้ปกครองต้องสอดส่องเอง
นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคงเป็นการชักชวนกันไปเที่ยวของนักศึกษากันเองมากกว่า เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งจะต้องสืบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และจะต้องมีบทลงโทษกับนักศึกษาที่หนีไปทำกิจกรรมรับน้องอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติเงินอุดหนุนการศึกษาเอกชนมาตลอด และเมื่อโรงเรียนได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล แต่ไม่เคยดูแลเด็ก ปล่อยให้ออกไปทำกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์จนก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดเช่นนี้ ก็ควรจะพิจารณาเอาเองว่ารัฐบาลสมควรจะให้เงินอุดหนุนต่อไปหรือไม่
นายศรีเมือง กล่าวต่อว่า โรงเรียนต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ สช.ไปดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และทราบว่าผู้บริหารโรงเรียนเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งหากมีความคืบหน้าทาง สช.จะรายงานให้ตนทราบทันที ทั้งนี้ ตนขอฝากถึงผู้ปกครองทุกคนให้ทราบว่า ศธ.มีนักเรียนอยู่ในความดูแล 14 ล้านคน ครูและบุคลากรทางการศึกษาเพียง 600,000 คน ดังนั้น คงจะดูแลเด็กไม่ทั่วถึง ซึ่งผู้ปกครองจะเป็นกำลังหลักสำคัญในการช่วยเหลือโรงเรียนอีกทางหนึ่งในการควบคุมและดูแลสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลานของตัวเองได้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการลงโทษกับรุ่นพี่โหดอ่อนไปหรือไม่ จึงมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกปี นายศรีเมือง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันขึ้นอยู่แต่ละสถานการณ์ ซึ่งเด็กที่ก่อเหตุอาจมีความผิดปกติทางจิตก็ได้ถึงได้ทำกิจกรรมออกไปในแนวทางที่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็คงจะต้องมีการทบทวนเพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการลงโทษนักเรียนที่มีปัญหาเรื่องพฤติกรรม เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากสมาคมโรงเรียนเอกชนว่า ไม่สามารถลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษด้วยการตีหรือไล่ออก เพราะผิดกฎหมาย ตอนนี้กำลังรวบรวมปัญหาให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงพิจารณาอยู่ ถ้าเป็นสมัยตนเป็นนักเรียนเกเรแบบนี้ต้องถูกไล่ออกแน่นอน ไปเข้าเรียนที่อื่นก็ไม่ได้ บางคนต้องไปบวช
เหยื่อรับน้องยัง โคม่า เยื่อสมองตาย อจ.เพิ่งโผล่เยี่ยม ตร.เร่งสอบเอาผิด รุ่นพี่ เพิ่ม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เหยื่อรับน้องยัง โคม่า เยื่อสมองตาย อจ.เพิ่งโผล่เยี่ยม ตร.เร่งสอบเอาผิด รุ่นพี่ เพิ่ม