ผบช.ภ.8 นำกำลังกว่า 200 นาย บุกค้นบ้านพัก นายกฯอบจ.นครศรีธรรมราช พบ อาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ลูกซองยาวออโตเมติค(ฟังค์กี้) อาวุธปืนเอชเค รวม 30 กระบอก เครื่องกระสุน และปลอกอาวุธปืนอีกเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อเวลา 05.00 น.ของวันนี้ 18 ตุลาคม 2551พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชย์อัตรา รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วยนายตำรวจระดับสูงจาก บชภ.8 และกำลังพลจาก กก.ศสส.ภ.8 เข้าสนธิกำลังกับ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 9 ชุดปฏิบัติการ มีนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ พร้อมด้วยหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กระจายกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มบุคคลเป้าหมายรวม 9 จุดภายในอำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล อาทิ บ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ใน อ.ร่อนพิบูลย์ นายอภินันท์ เชาวลิต หรือ "นายกเอ" นายก อบต.ท่าศาลา และกลุ่มเครือข่ายคนใกล้ชิดของบุคคลทั้งสอง
ตร.บุกค้นบ้านนายกฯอบจ.เมืองคอน พบอาวุธปืนเพียบ
ภายหลังจากการตรวจค้นทุกชุดปฏิบัติการทั้ง 9 ชุด
ได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนและ เชิญตัวผู้ที่อยู่ภายในบ้านและครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวมาสอบสวนยังห้องประชุม บก.ภ.นครศรีธรรมราช โดยมีการระดมพนักงานสอบสวนจากทั้ง 3 อำเภอมาทำการสอบสวน ซึ่งผลจากการตรวจค้นนั้นได้ยึดอาวุธปืนจากบ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา และจากบ้านพักของคนใกล้ชิดทั้ง 9 จุด ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งอาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ลูกซองยาวออโตเมติค(ฟังค์กี้) อาวุธปืนเอชเค รวม 30 กระบอก เครื่องกระสุน และปลอกอาวุธปืนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีการตรวจสอบเอกสารประจำปืนอย่างละเอียด
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า
มูลเหตุในการตรวจค้นเนื่องมาจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าหลายคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับบุคคลหลายคน จึงขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นทั้ง 9 จุดโดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกหน่วยพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดที่ได้มาจากการตรวจค้นจากทั้ง 9 จุดนั้น เจ้าหน้าที่จะยึดไว้ตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานความเชื่อมโยงเกี่ยวพัน
"ทุกคนที่เชิญตัวมาจะแจ้งข้อหาตามพยานหลักฐานที่ได้มา กระสุนปืนเอชเคนั้นพบว่าไม่ใช่เป็นกระสุนของทางราชการ และตำรวจที่มาอารักขาคุ้มกันนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหลายถูกสั่งให้กลับหมดแล้วแต่รายนี้ยังอยู่จึงสั่งตั้งกรรมการสอบสวน การปฏิบัติการเช่นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามบัญชีมือปืนที่อยู่ในข่ายติดตามขณะนี้มีเกือบ 1 พันรายในส่วนของภูธรภาค 8" พล.ต.ท.สัณฐาน
เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้บริหารท้องถิ่นที่มีอาวุธปืนร้ายแรงอยู่ในครอบครอง พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามที่พบหลักฐาน ส่วนผู้ที่มีหลักฐานถูกต้องก็สอบปากคำเอาไว้แล้วปล่อยกลับบ้านไป ส่วนอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องก็ต้องแจ้งความ ซึ่งก็มีทั้งปืนที่มีทะเบียนแต่เจ้าของไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนั้น ส่วนอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เอช เค ซึ่งเป็นอาวุธสงครามตรวจสอบแล้วก็อ้างว่าเป็นของตำรวจ ขณะนี้กำลังพิสูจน์ทราบกันอยู่ว่า แท้จริงแล้วใช่หรือไม่ จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่า ไม่ใช่กระสุนที่เบิกจากราชการ และว่าตำรวจที่ไปอารักขาคุ้มครองนักการเมืองเหล่านั้นไปอย่างถูกต้องหรือไม่