ตำรวจสเก็ตช์ภาพคนร้ายยิงแขกซิกข์แล้ว คาดขอออกหมายจับมือยิงพ่อค้าผ้าย่านสำเพ็งได้ในวันจันทรที่ 20 ต.ค.
(18ต.ค.) พ.ต.ท.ประวิทย์ กังวล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายประกบยิงนายสวัสดิ์ เศรษฐี อายุ 70 ปี เศรษฐีแขกซิกข์เจ้าของโรงงานทอผ้าย่านสำเพ็งเสียชีวิตหน้าปากซอยสุขุมวิท 59 ว่า หลังสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์และพยานที่เห็นหน้าคนร้ายขณะขี่จักรยานยนต์หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ 2 ปาก ตำรวจก็สามารถสเกตซ์ภาพคนร้ายได้ แต่ยังไม่สามารถขอหมายจับได้ เนื่องจากต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอ คาดว่าน่าขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นมือปืนได้ภายในวันจันทร์นี้
หลังจากที่ได้สอบสวนนางสุวรรณ เศรษฐี อายุ 63 ปีภรรยาผู้ตายและญาติต่างระบุว่าผู้ตายไม่มีปัญหาอื่น นอกจากเรื่องการประมูลโรงงานที่จ.ปราจีนบุรีเท่านั้น จึงมุ่งสืบสวนประเด็นนี้ แต่ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ขณะนี้ก็ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อประสานขอข้อมูลตำรวจพื้นที่แล้วคาดว่าจะมีผลความคืบหน้าคดี และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีในวันจันทร์เช่นกัน
ด้านพล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร ผบภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานงานจากสน.ทองหล่อ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ แต่คาดว่าเจ้าหน้าที่มาติดตามสอบสวนหาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ และขอรับการประสานข้อมูล ซึ่งเตรียมการให้รายละเอียดต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ทางคดีเต็มที่ เพื่อร่วมสืบสวนรายละเอียดต่อไป
รายงานข่าว แจ้งว่า ทีมสืบสวนบก.น.5 และสน.ทองหล่อ ขอรายละเอียดข้อมูลผู้ตายเกี่ยวกับบันทึกประจำวันลงวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งผู้ตายแจ้งความ สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีต่อมา โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำวัน สภ.ระเบาะไผ่ให้รายละเอียดข้อมูล ต่าง ๆ
โดยรายละเอียดประจำวันกล่าวถึง "ชาย 40 คนบุกรุกเข้าไปในโรงงานที่อยู่ระหว่างประมูลหลังถูกบังคับคดีให้ขายทอดตลาด เพราะผู้ตายใช้เป็นหลักทรัพย์กู้เงินธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในบันทึกมีนายกุสน ป้องบุญจันทร์ เป็นผู้ประมูลได้ ราคา 52.2 ล้านบาท วางมัดจำงวดแรก 50,000 บาท และส่วนที่เหลือต้องจ่ายภายใน 20 วัน แต่ยังไม่มาชำระตามกำหนดและผลัดไปถึงเดือนพฤศจิกายน ผู้ตายเกรงทรัพย์สินเสียหายเพราะตรวจสอบพบหลังคาโรงงานบางส่วนถูกรื้อไปจึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ธนาคารกรุงไทยประสานกรมบังคับคดีเข้ามาดูแล”
สำหรับโรงงานบริษัทเอสวี เทค หมู่บ้านวังทะลุ หมู่ 3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตั้งเลยจากแยกถนนสาย 304 แยกตลาดคลองรั้งลึกเข้ามาเกือบ 1 กม.เศษ เป็นย่านที่ตั้งอีกแห่งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีโรงงานตั้งอยู่รวม 4 แห่ง ประตูโรงงานปิดรั้วเหล็กไม่ให้คนภายนอกเข้ามา พบมีคนดูแลด้านหน้า 2 คนหน้าป้อมยาม และด้านในอีก 3 คน รวม 5 คน คาดเป็นของผู้ได้รับประมูล ชื่อป้ายโรงงานถูกแกะตัวอักษรออกทั้งหมด
คนดูแลไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า มาดูแลเครื่องจักร โดยมาจากกรุงเทพไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น โรงงานแห่งนี้มีการประมูล รวม 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดเจ้าของโรงงานเดิมได้มาร่วมประมูลด้วยเป็นครั้งสุดท้ายและแพ้ประมูลเพื่อซื้อโรงงานคืน
นายสมหวัง ธำรงนิศากร เจ้าของร้านอาหารแมงปอ ที่อยู่เยื้องฝั่งตรงข้ามโรงงาน กล่าวว่า บริษัทเอสวี เทค ประสบวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปี 2549 และเลิกกิจการ เป็นโรงงานทอผ้า-ฟอกย้อม ทราบเพียงเจ้าของเป็นแขกซิกข์ สัญชาติไทยกับประชาชนในพื้นที่ไม่ได้พบปะพูดคุย หลังเลิกกิจการล่าสุดนี้เมื่อ 3 เดือนก่อนมีการประมูลเครื่องจักร-โรงงาน มีนักประมูลจากทั่วประเทศกว่า 300 คน เดินทางมาประมูล