ทัวร์ซิ่งแหกโค้ง อจ.นศ.ดับ 21 ศพ

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ร.ต.อ.สุชาติ แย้มศักดิ์ ร้อยเวร สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารแหกโค้งพลิกคว่ำบนไหล่เขาริมถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี กม.ที่ 45-46 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรายงานให้ พล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร ผบก.ภ.จ.ปราจีนบุรี พ.ต.ท.สิวนารถ เสโส สวญ.สภ.วังขอนแดง นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยสัจจพุทธรรมกบินทร์บุรี หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ไปให้ความช่วยเหลือ


ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งลงเนินเขา ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร พบรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ของบริษัท
SR
จาตุรงค์ทัวร์ หมายเลขทะเบียน 31-2555 กรุงเทพมหานคร

พุ่งไถลขึ้นไปบนไหล่เขาข้างทางฝั่
งซ้าย สภาพรถพลิกตะแคงขวาพังยับเยิน เก้าอี้ผู้โดยสารหลุดกระเด็น ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ท่ามกลางศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกซากรถพลิกตะแคงทับร่างที่กระเด็นกระดอนออกมานอกรถ ส่วนใหญ่ศีรษะแตก แขนขาหัก บางรายแขนขาขาดเป็นที่น่าสยดสยอง หน่วยกู้ภัยจึงช่วยเหลือลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 27 คน นำส่ง รพ.นาดี 7 คน รพ.กบินทร์บุรี 5 คน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร 5 คน รพ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 7 คน และ รพ.มหาราชนครราชสีมา 3 คน

ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 21 ศพ ประกอบด้วย


นายจาตุรงค์ ม่วงแก้ว อายุ 43 ปี คนขับรถทัวร์ นายชาคร เขิมขันธ์ อายุ 58 ปี รอง ผอ.วิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น นายปิยวัฒน์ ย่อยไธสงค์ อายุ 40 ปี อาจารย์ที่ปรึกษา นายชัยยงค์ ธาตุดี อายุ 55 ปี อาจารย์ที่ปรึกษา นายสมพร อนุพันธ์ อายุ 45 ปี นายวิวัฒน์ มืดขุนทด อายุ 52 ปี นายสุรวิทย์ สกุลเจริญ อายุ 55 ปี นายไพบูลย์ ซื่อตรง ไม่ทราบอายุ นายธถิตรัตน์ สิทธิพรเกษม อายุ 50 ปี นายปิยะ แย้มเดช อายุ 24 ปี นายคมสัน กลมกล่อม อายุ 26 ปี นายมนัส สกุลแก้ว อายุ 37 ปี นายนิพนธ์ โพธิ์พัฒน์ ไม่ทราบอายุ นายเทพฤทธิ์ ทองเพชรศิลป์ อายุ 28 ปี นายประยงค์ เทพสีหะ อายุ 47 ปี นายวิโรจน์ อุตสาหะ อายุ 48 ปี นายสุวัฒน์ ศรีวัฒนานุศาสตร์ ไม่ทราบอายุ นายจุฬาวงค์ สมใจ ไม่ทราบอายุ น.ส.วิจิตรา วังหิน อายุ 22 ปี นางมยุรี ดอนแส อายุ 39 ปี และนางอนัญญา สิงห์แดง อายุ 47 ปี

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดเป็นอาจารย์และนักศึกษาภาคสมทบ คณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น

ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการหน่วยงานต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น อาทิ เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ และตำรวจ รวมทั้งเจ้าของร้านขายสินค้าเกี่ยวกับการเกษตร ก่อนเกิดเหตุเช่าเหมารถทัวร์คันดังกล่าวจะพากันไปศึกษาดูงานที่อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยมีนายจาตุรงค์ ม่วงแก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของรถเป็นคนขับ เดินทางออกจากวิทยาลัยเมื่อเวลา 21.00 น. คืนที่ผ่านมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งลงเขาลาดชัน รถวิ่งด้วยความเร็วสูงอาจเกิดปัญหาระบบเบรกขัดข้อง ประกอบกับคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง บังคับรถไม่อยู่ทำให้เสียหลักแหกโค้งตกถนนวิ่งไถลขึ้นไปบนไหล่เขาก่อนพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

ต่อมานายบุญช่วย ศรีเกษ ผอ.วิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น พร้อมญาติผู้เสียชีวิต เดินทางไปที่ รพ.นาดี


เพื่อติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 21 ราย ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด โดยนายบุญช่วยกล่าวว่า ทางสถาบันจะเป็นเจ้าภาพขอรับศพผู้เสียชีวิตนำไปบำเพ็ญ กุศลที่วัดจันทร์ประสิทธิ์ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ในคืนนี้ก่อน หลังจากนั้นก็จะให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

นายจักรภพ มงคลสวัสดิ์ รอง ผอ.ฝ่ายพัฒนาการศึกษา วิทยาลัยการเกษตรฯ ขอนแก่น เผยว่า ทางวิทยาลัยจะให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่


เพราะนักศึกษาทั้งหมดเป็นบุคลากรที่ดีของประเทศ ล้วนเป็นบุคคลที่มีหน้าที่การงานดีแทบทุกคน เบื้องต้นทราบว่าการเดินทางได้ทำประกันภัยหมู่ไว้กับบริษัทเมืองไทยประกันภัย ส่วนทางวิทยาลัยก็ทำประกันภัยให้กับนักศึกษาทุกคนอยู่แล้ว กรณีเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจะได้รับการช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท กรณีบาดเจ็บช่วยค่ารักษาพยาบาลรายละ 1 หมื่นบาท

พ.ต.ท.พิชัย โกจารย์ศรี รอง ผกก.3 บก.ทล. เปิดเผยว่า ได้กำชับตำรวจทางหลวงทุกนายให้เข้มงวดกวดขันเรื่องระเบียบวินัยของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ


โดยเฉพาะรถโดยสารที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสถิติการเกิดอุบัติเหตุหมู่บนถนนสายดังกล่าว บริเวณเขาโทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ใกล้จุดที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่าในปี 50 เกิดอุบัติเหตุ 6 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 34 ราย และในปี 51 เกิดอุบัติเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 30 ราย และได้รับบาดเจ็บ 32 ราย รวมในครั้งนี้ด้วย

ด้านนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ภายในรถทัวร์มีนักศึกษา 43 คน อาจารย์ผู้ดูแล 3 คน พนักงานขับรถและคนรถ 5 คน รวมทั้งสิ้น 51 คน


ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของชาวอาชีวศึกษา เพราะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก รู้สึกเศร้าสลดและเสียใจมาก หลังทราบข่าวได้ประสานไปยังสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุเข้าไปช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแล้ว พร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้าต่างๆ เป็นระยะ ถ้าต้องการให้ส่วนกลางช่วยเหลืออะไรให้แจ้งเข้ามาได้ทันที ส่วนการช่วยเหลือเรื่องค่าทำศพต้องมีให้แน่นอน แต่จำนวนเท่าไหร่คงต้องศึกษาในรายละเอียดกฎระเบียบต่างๆก่อน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์