ภัยสาวอยาก ´อึ๋ม´ สารมฤตยู ฉีดเต้าช็อกคาเข็ม

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยบุตร อัจฉริยมงคล ผกก.สภ.ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.ธีรพล อินทรลิป รอง ผกก.สส. พร้อมด้วยนายอิศรา นานาวิชิต เจ้าหน้าที่เภสัชกร 7 หัวหน้างานเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สืบทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 1/3 ซอยเจดีย์ปล่อง ฝั่งตรงข้ามกับพนาเพลส ต.ช้างเผือก ลักลอบเปิดคลินิกรับทำศัลยกรรมเสริมเต้านมให้แก่หญิงสาวหน้าอกไข่ดาวและสาวประเภท 2 โดยมีนางยอดขวัญ สิงห์แก้ว อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระดับ 6 ประจำสถานีอนามัยตำบลดอยเวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้ทำศัลยกรรม





เจ้าหน้าที่วางแผนส่งสายเป็นหญิงสาวทำทีเข้าไปติดต่อขอฉีดสารคลอลาเจนเหลวเพื่อเสริมเต้านมให้ ใหญ่ขึ้น โดยนางยอดขวัญคิดค่าบริการครั้งละ 20,000 บาท เมื่อสายจ่ายเงินแล้ว นางยอดขวัญได้พาไปนั่งเก้าอี้ที่เตรียมไว้ในห้องหลังบ้าน พร้อมบรรจุสารเคมีชนิดหนึ่งใส่เข็มฉีดยาเตรียมฉีดให้ เมื่อสายส่งสัญญาณแจ้งให้ทราบ เจ้าหน้าที่จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมทันที เมื่อรู้ตัวว่าถูกซ้อนแผนจับกุม นางยอดขวัญถึงกับหน้าซีดเหงื่อแตก ตรวจค้นภายในบ้านพบเอกสารโฆษณาอวดอ้างเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมใบหน้าและทรวงอกให้เต่งตึงสวยงามจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด และขวดใส่ของเหลวใส คาดว่าเป็นสารคลอลาเจนเหลว อุปกรณ์การแพทย์อื่นๆอีก 4 ตะกร้าใหญ่ รวมทั้งบัญชีรายชื่อลูกค้าที่เคยมาฉีดสารคลอลาเจนเหลวไปแล้วเกือบ 300 ราย จึงยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมคุมตัวนางยอดขวัญไปมอบให้ พ.ต.ต.หญิง จรีวรรณ ยางแดง สารวัตรเวร สภ.ต.ช้างเผือก ดำเนินคดีในข้อหา ประกอบโรคศิลป์โดยไม่มีใบอนุญาต และจัดตั้งสถาน บริการทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต




พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาว 2 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ต.ช้างเผือก ว่า ได้ไปฉีดสารเสริมเต้านมที่คลินิกของผู้ต้องหาแล้วเกิดอาการแพ้จนช็อกหมดสติ ต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียู ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่วางแผนเข้าจับกุมคลินิกเถื่อนแห่งนี้ โดยส่งสายไปล่อซื้อจนจับกุมได้คาหนังคาเขา เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจได้ยึดยาและอุปกรณ์การทำศัลยกรรมในบ้านไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด อยากฝากเตือนไปยังหญิงสาวที่รักสวยรักงาม ควรจะไปทำศัลยกรรมยังสถานที่ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญดูแล ไม่ใช่เป็นหมอเถื่อนอย่างนี้ ซึ่งทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ และขอให้ประชาชนที่เคยมาทำศัลยกรรมที่คลินิกเถื่อนแห่งนี้ มาพบเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ส่งไปให้ แพทย์ตรวจร่างกายและรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากสารเคมีที่ผู้ต้องหานำมาฉีดให้นั้นเป็นสารอันตราย





ด้านนายอิศรา นานาวิชิต เจ้าหน้าที่เภสัชกร สสจ. เชียงใหม่ กล่าวว่า สารคลอลาเจนที่ผู้ต้องหานำมาใช้ เป็นสารเคมีที่วงการแพทย์ยังไม่ให้การยอมรับ เพราะหากฉีดสารชนิดนี้เข้าไปในร่างกายมนุษย์โดยไม่มีการ ตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนั้น จะทำให้คนไข้ซึ่งในแต่ละรายมีภูมิคุ้มกันไม่เท่ากัน เกิดอาการแพ้และอาจเป็นอันตรายถึงกับช็อกหมดสติและเสียชีวิตได้ เพราะจะต้องฉีดถึง 20 เข็ม จึงจะทำให้หน้าอกโต คลินิกแห่งนี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อคนไข้มาก เพราะผู้ให้บริการไม่มีความรู้และอุปกรณ์การทำศัลยกรรมก็ไม่สะอาด มีตัวอย่างกรณีที่ผู้เสียหาย 2 ราย ได้มาฉีดขยายเต้าแล้วเกิดอาการช็อกหมดสติจนต้องหามส่งโรงพยาบาล นอนรักษาตัวในห้องไอซียู และทางญาติได้เข้าแจ้งความกับตำรวจไว้แล้ว




พ.ต.ต.(หญิง) จรีวรรณ ยางแดง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ล่าสุดอาการของ 2 ผู้เสียหายเหยื่อคลินิกเถื่อนแห่งนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเบื้องต้นไปบ้างแล้ว สำหรับคลินิกแห่งนี้จะใช้สาวประเภท 2 เป็นนายหน้าติดต่อหาลูกค้ามาให้ โดยคิดราคาค่าทำศัลยกรรมฉีดหน้าอกเสริมเต้าครั้งละ 2 หมื่นบาท ส่วนนายหน้าจะได้ค่าติดต่อ 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ตำรวจรู้ชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป





ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคนหนึ่งเปิดเผยว่า กรณีแบบนี้ไม่ใช่รายแรกและรายเดียวที่เกิดขึ้นในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่มีคลินิกเถื่อนลักษณะเดียวกันนี้ระบาดเกลื่อนเมือง เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนมีตำรวจหญิงยศจ่าสิบตำรวจจากหน่วยงานหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ไปให้หมอชื่อหมออ๋อย ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นหมอเถื่อน ฉีดสารคลอลาเจนเหลวเสริมหน้าอกเพิ่มขนาด ปรากฏว่าตำรวจหญิงคนดังกล่าวเกิดอาการแพ้ยาและช็อกหมดสติ ขณะนี้ยังเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่รู้สึกตัว นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จนถึงขณะนี้ญาติยังไม่กล้าเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพราะเกรงว่าลูกสาวจะเกิดความอับอาย ซึ่งตำรวจและสสจ.เชียงใหม่ กำลังควานหาตัวหมอเถื่อนรายนี้อยู่ หากใครทราบเบาะแสขอให้รีบแจ้งให้ตำรวจทราบด้วย