ระทึกตา-ยายนั่งกินข้าวกับคนใช้ในบ้านย่านนวมินทร์ หนุ่มคลั่ง ถือมีดยาว 1 ฟุต บุกเข้ามาบอกขอหลบตร.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ร.ต.อ.พิษณุ เอี่ยมสวัสดิ์ ร้อยเวรสน.ลาดพร้าว รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ตัวประกัน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 89/319 ซอยนวมินทร์ 81 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ลือชัย สุขยอด รองผบก.ตปพ.(191) หน่วยอรินทราช 26 และหน่วยแพทย์กู้ชีพนเรนทร นพรัตน์ราชธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา
พบนายวิรัตน์ ชัยธีระพันธุ์กุล อายุ 71 และนางอนงนิตย์ ชัยธีระพันธุ์กุล อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านที่หลบหนีออกมาอยู่ด้านนอกด้วยอาการตื่นตระหนก ให้การว่า ภายในบ้านมีนายมานพ ศรีแก้ว อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/156 ซอยหทัยราษฎร์ 37 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต จี้ตัวเองอยู่ภายใน พร้อมทั้งใช้มีดกรีดแขนของตัวเองจนเป็นแผล
หลังรับทราบรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่วางแผนเข้าระงับเหตุ ตรวจสอบภายในบ้านพบนายมานพยืนอยู่ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ในอาการคลุ้มคลั่ง
เจ้าหน้าที่จึงเกลี้ยกล่อม โดยนำสุรามาให้ดื่มพร้อมกับเจรจาพูดคุยให้วางอาวุธ ใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม. ในที่สุดนายมานพ ยอมวางมีดและให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ นางอนงนิตย์กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับสามีและคนรับใช้ ก่อนเกิดเหตุขณะนั่งกินข้าวอยู่ภายในบ้าน นายมานพถือค้อนเดินเข้ามาในบ้าน โดยบอกว่าหนีตำรวจมาขอหลบจะไม่ทำร้ายใคร และขอให้พวกตนช่วยเหลือด้วย จึงออกอุบายบอกว่าจะไปเรียกรถแท็กซี่ให้
เมื่อเดินออกมาด้านนอกพบเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านมาพอดีจึงเรียกขอความช่วยเหลือ
ทำให้นายมานพ ตกใจวิ่งเข้าไปในบ้าน ระหว่างนั้นคนรับใช้ที่อยู่ด้านในวิ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ นายมานพใช้เท้าถีบพังประตูทำให้คนรับใช้ตกใจเป็นลมหมดสติ ส่วนตนและสามีอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งออกมานอกบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ขอกำลังสนับสนุนนำคนรับใช้ที่เป็นลมส่งร.พ. ส่วนนายมานพคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้ตัวเองอยู่ตรงทางขึ้นชั้น 2 อยู่นาน ก่อนจะยอมมอบตัวในที่สุด
ด้านพ.ต.ท.จิตเทพ อินทร์เล็ก รองผกก.(สส.) สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหานายมานพ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน บุกรุก หน่วงเหนี่ยวกักขัง
และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายมานพมีหมายจับของสน.สุทธิสาร ข้อหาลักทรัพย์ และข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง ของสน.โคกครามข้อหาทำร้ายร่างกาย และยังมีหมายจับศาลอาญาข้อหาลักทรัพย์ รวมหมายจับทั้งหมด 4 หมาย จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป