แทงปาดคอ สาวโรงงาน คู่กิ๊กผัวคนตายแค้น

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ต.ค. พ.ต.ท.ไพสิฐ ออมสิน สารวัตรเวร สภ.ปากคลองรังสิต อ.เมืองปทุมธานี

รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่ลานจอดรถของปาริชาตอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 89/9 ถนนรังสิต-ปทุมธานี หมู่ 2 ต.ปากพูน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ. จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผกก. สภ.ปากคลองรังสิต พ.ต.ท.สรกิจ ทรัพย์สวนแตง รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน นพ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ แพทย์สถาบันนิติเวช รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถของอาคารที่พักตึกเอพบศพนางอรทัย ต่อสุข อายุ 27 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 7 ต.เชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง นอนหงายจมกองเลือด สวมชุดฟอร์มโรงงาน เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวอ่อน กางเกงขายาวสีกรมท่า มีบาดแผลลำตัวถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเหวอะหวะเกือบ 10 แผล ส่วนลำคอถูกปาด จนเส้นเลือดใหญ่ ขาดกระจุย มือทั้ง 2 ข้าง กำเส้นผมกระจุกใหญ่คล้ายมีการต่อสู้กับคนร้ายรุนแรง ข้างศพพบกระเป๋าหนีบสำหรับใส่เครื่องสำอาง กับรองเท้าผ้าใบของผู้ตายตกอยู่ 1 ข้าง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า นางอรทัยเหยื่ออำมหิตทำงานที่บริษัทเม็คเทค จำกัด ย่านอุตสาหกรรมโรจนะ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

และเช่าพักอยู่ห้องบี 110 ชั้น 1 อาคารที่พักบีของอพาร์ตเมนต์ปาริชาต ก่อนเกิดเหตุเช้าวันเดียวกันผู้ตายตื่นนอนแต่งตัวจะไปทำงาน จนถูกคนร้ายดักฆ่าตายอนาถ โดยมีพยานพบเห็นหญิงสาวสงสัยเป็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากพยานหลักฐานคาดว่าคนร้ายมาดักรอผู้ตาย หลังพบหน้าบุกลากคอไปตกลงปัญหาบางอย่างที่ลานจอดรถ พอพูดคุยกันไม่รู้เรื่องมีการต่อสู้ กันจนเหยื่อพลาดท่าถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น 

ต่อมาตำรวจเข้าตรวจค้นห้องพักของผู้ตาย พบนายไพโรจน์ ต่อสุข อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทแอลเลคแอนด์แอลเทค เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี สามีนางอรทัย นอนหลับอยู่โดยยังไม่ทราบว่าภรรยาถูกฆ่าตายแล้ว

สอบถามนายไพโรจน์ให้การว่า ตนกลับจากทำงานตอนเช้า พบชาวบ้านมุงดูกัน แต่ไม่ได้สนใจรีบเข้านอนทันที เพราะง่วงนอนมาก ส่วนภรรยาออกไปทำงานตอนเช้าตั้งแต่ตี 5 ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น  สามีผู้ตายให้การอีกว่า ส่วนสาเหตุสงสัย น.ส.วลัยวรรณ อาจปักษา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 4 ต.บ้านบึง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ทำงานบริษัทเดียวกับตนลงมือ เพราะก่อนหน้านี้ตนได้คบหาเป็นกิ๊กกับ น.ส.วลัยวรรณ จนภรรยาจับได้ตนจึงได้บอกเลิกกับ น.ส.วลัยวรรณ และเมื่อราวสองวันที่ผ่านมาผู้ตายบุกด่าว่า น.ส.วลัยวรรณ ว่าแย่งผัวชาวบ้านถึงที่ทำงาน อาจทำให้ น.ส.วลัยวรรณ หึงหวงและโกรธแค้นบุกฆ่าอย่างเลือดเย็น

หลังทราบเรื่องตำรวจบุกจับกุม น.ส.วลัยวรรณได้ที่ทำงาน สอบสวนให้การยอมรับว่าจะเจรจาเรื่องปัญหารักสามเส้า แต่ผู้ตายต่อสู้และขัดขืนเลยฆ่าทิ้ง จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดี