เมื่อตอนสายวันที่ 27 ก.ย. ที่เรือนจำกลางเขาบิน ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผบ.เรือนจำกลางเขาบิน พร้อมนายสุเทพ ชิ้นสกุล ผอ.ส่วนควบคุมผู้ต้องขัง ควบคุมตัวนายสนธยา ทับทองห้วย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 4 ต.พงสวาย อ.เมืองราชบุรี หน.รปภ.องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศึก ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำเรือนจำกลางเขาบิน
พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6300 จำนวน 12 เครื่อง โทรศัพท์มือถือรุ่น 5310 จำนวน 14 เครื่อง รวม 26 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ 29 อัน อุปกรณ์สำหรับชาร์จโทรศัพท์ 23 อัน และอุปกรณ์หูฟังอีก 38 ชุด โดยของกลางทั้งหมดใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อแล้วมัดด้วยเทปกาวสีน้ำตาลรวม 9 มัด มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผบ.เรือนจำกลางเขาบิน เปิดเผยว่า นายสนธยาเป็น รปภ.ขององค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศึกที่ทางกรมราชทัณฑ์ทำสัญญาจ้างมาปฏิบัติหน้าที่แบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำในการควบคุมดูแลผู้ต้องขัง เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา นายสนธยาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่บนป้อมรักษาการณ์ริมกำแพงเรือนจำ ป้อมที่ 3 ได้แอบลักลอบนำโทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อพันทับด้วยเทปกาวสีน้ำตาลใส่กระเป๋าสัมภาระขึ้นไปบนป้อมยามด้วย
รปภ.คุกแสบ ลอบส่งมือถือ
กระทั่งกลางดึกประมาณตีสองวันเดียวกันนายสนธยาได้โยนของกลางทั้งหมดจากป้อมยามลงในกองขยะภายในแดน 7
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ซึ่งเข้าเวรได้ยินเสียงผิดปกติจึงรายงานให้ตนและนายสุเทพ ชิ้นสกุล ผอ.ส่วนควบคุมผู้ต้องขังทราบ พร้อมประสาน ด.ต.ธงชัย แก้วสะอาด หน.ป้อมสายตรวจ ต.น้ำพุ สภ.เมืองราชบุรี เข้าร่วมตรวจสอบในตอนเช้าตรู่พบห่อดังกล่าวภายในมีโทรศัพท์ มือถือรวม 26 เครื่อง และอุปกรณ์ครบชุดซุกซ่อนอยู่ จึงควบคุมตัวนายสนธยาไปสอบปากคำให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 อ้างว่ามีคนจากภายนอกชื่อนายชาญ ไม่ทราบนามสกุลว่าจ้างเป็นเงิน 15,000 บาท ให้นำของกลางทั้งหมดโยนเข้าไปในเรือนจำจะมีนักโทษมารับเองทอดหนึ่ง โดยผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินให้หลังงานแล้วเสร็จแต่ครั้งนี้พลาดท่ามาถูกจับเสียก่อน
ผบ.เรือนจำกลางเขาบินเผยอีกว่า สำหรับโทรศัพท์ มือถือที่ยึดได้หากถึงมือผู้ต้องขังราคาจะพุ่งสูงมาก เพราะถือ เป็นของต้องห้ามนำไปใช้สั่งซื้อขายยาบ้า
ถ้าเป็น รุ่นโนเกีย 6300 ข้างนอกราคาแค่ 6,000-7,000 บาท แต่ในเรือนจำราคาสูงถึงเครื่องละ 80,000 บาท รุ่น 5310 ข้างนอกราคาเครื่องละประมาณ 4,000 บาท ในเรือนจำราคาเครื่องละ 45,000 บาท ส่วนอุปกรณ์ก็จะมีราคาต่างหากอีก เช่น หูฟังหรือสมอลทอล์กชิ้นละประมาณ 2,000 บาท ซิมอันละประมาณ 2,000 บาท หากของกลางทั้งหมดหลุดเข้าไปจะมีราคารวมแล้วเกือบ 2,000,000 บาท โดยมีนายทุนข้างนอกร่วมมือกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ การจ่ายเงินจะจ่ายกันภายนอกเรือนจำ ที่ผ่านมาทางเรือนจำกลางเขาบินพยายามแก้ไขปัญหา เพราะมีข่าวการสั่งซื้อยาบ้าทางโทรศัพท์มือถือจากเรือนจำอย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าหน้าที่เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกมองในแง่ไม่ดีมาตลอด มีการย้ายเจ้าหน้าที่แล้วหลายนาย กระทั่งมาจับกุม หน.รปภ.ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้พร้อมของกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำคลายความกดดันที่สังคมภายนอกมองในแง่ไม่ดีขึ้นมาบ้าง ส่วนผู้ร่วมขบวนการจะมีใครบ้างต้องสอบสวนขยายผลต่อไป
ต่อมาวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่นำตัวนายสนธยาไปค้นบ้านพักเลขที่ 241/55 หมู่ 6 ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี
พบปืนพกแบบลูกโม่ยี่ห้อสมิท แอนด์ เวสสัน ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก กระสุน 6 นัด ลำไผ่ทำเป็นบ้องกัญชา 2 อัน บัญชีเงินกู้ที่นายสนธยาปล่อยกู้ให้กับเพื่อน รปภ.ด้วยกัน ยอดเงินรวมกว่าแสนบาท จึงนำตัวนายสนธยาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ดำเนินคดีข้อหามีและพยายามนำเข้าสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 45 และกฎกระทรวงข้อ 127 พ.ศ. 2479 และดำเนินคดีข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต