ยึดเรือเดินทะเล ปล้นลากเข้าไทย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจน้ำ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบช.ก.

พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผบก.รน. พ.ต.ท. พัฒนา ปรีชานันท์ สวส.รน.1 กก.10 บก.รน. พ.ต.ท.สมชาติ ศุภวุฒิ สวส.รน.กก.5 บก.รน. พ.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง สว.ฝป.7 บก.ป. พ.ต.ต.ยุทธพงษ์ หยงสตาร์ สว.ฝป.7 บก.ปดส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.รน. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันซื้อหรือรับไว้ โดยประการใด ซึ่งเรืออันตนรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักร

โดยเลี่ยงภาษีศุลกากร ข้อห้าม ข้อจำกัด หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนผู้ต้องหา 5 คน

ได้แก่ นายออด เสยสีเพ็ชร อายุ 67 ปี กัปตันเรือ อยู่บ้านเลขที่ 459 หมู่ 5 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ นายพงษ์ศักดิ์ กองช้าง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 7 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ นายเสงี่ยม ปิ่นแก้ว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233/200 หมู่ 13 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นายนคร ใจเกื้อ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138/153 หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร และนายอิ๊ด เฉลิมพันธ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางเรือลากจูง ชื่อ SAGA 01 สัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO9455428 จำนวน 1 ลำ และ เรือบาสหรือเรือบรรทุกดินทราย ชื่อ SINOVEHT 2503 สัญชาติสิงคโปร์ ระวางขับน้ำ 2,000 ตันกรอส จำนวน 1 ลำ รวมมูลค่ากว่า 230 ล้านบาท 

พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบช.ก. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้รับแจ้งว่า มีเรือดังกล่าวลากจูงกันมาและทอดสมอลอยลำอยู่บริเวณกลางทะเล อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากชายฝั่งราว 7 ไมล์ทะเล

จึงเข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อยู่บนเรือดังกล่าว โดยนายออด ซึ่งเป็นกัปตันเรือไม่สามารถนำเอกสารใดๆเกี่ยวกับเรือมาแสดงได้ ตลอดจนไม่มีหลักฐานใดๆของเรือดังกล่าว ก่อนเปิดปากให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากนายจ้างชาวไทยรายหนึ่ง ให้นำเรือดังกล่าวมาส่งให้แก่ลูกค้าที่เกาะช้าง จ.ตราด โดยได้ค่าแรงเป็นเงิน 300,000 บาท ส่วนเรือทั้ง 2 ลำนี้ได้มาอย่างไรหรือนำเข้ามาจากที่ใดพวกตนไม่ทราบ 

ด้าน พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผบก.รน. กล่าวว่า เรือทั้ง 2 ลำนี้เชื่อว่าเป็นเรือที่ถูกกลุ่มโจรสลัดข้ามชาติโจรกรรมมาจากน่านน้ำย่านช่องแคบมะละกา

ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบ โดยกลุ่มเรือของผู้เสียหายที่ถูกโจรกรรมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรือสัญชาติต่างประเทศ หลังจากถูกโจรกรรมแล้วก็จะมีเอเย่นต์นำเรือที่ได้มาไปขายต่อในราคาถูกๆให้แก่นักลงทุนต่างๆ โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้นเป็นเพียงผู้ถูกว่าจ้างให้นำเรือไปส่ง อย่างไร ก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของผู้บงการในเรื่องนี้เรียบร้อย และอยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลเข้าจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป