วันที่ 25 ก.ย. ที่ห้องประชุม สภ.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประ-ยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ
พ.ต.อ.ธีรเดช ภาณุรักษ์ ผกก.สภ.ราชาเทวะ ตัวแทนบริษัทการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยแอร์พอร์ตกราวด์เซอร์วิส ซึ่งรับผิดชอบดูแลรถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และบริษัทล็อกซเลย์ ไอซีทีเอส คอนโซเตียม ซึ่งรับผิดชอบดูแลเรื่องงานรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งคน ร้ายก่อเหตุลักรถเข็นกระเป๋าสัมภาระภายในสนามบินฯ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 02.00 น. คืนวันที่ 25 ก.ย. ขณะ เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัทล็อกซเลย์ ไอซีทีเอสฯ ออกตรวจตราความเรียบร้อยภายในอาคารจอดรถผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 3 ชั้น 3
พบชายต้องสงสัย 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือนายศุภกร กล้าวิกฤติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 3 ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ทำงานเป็นหัวหน้าพนักงานทำความสะอาดประจำท่า อากาศยานสุวรรณภูมิ และนายอภิสิทธิ์ หน่อพุทธวรางกูล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ต.มะขามเฒ่า อ.วัด-สิงห์ จ.ชัยนาท เป็นพนักงานบริษัทพีวีซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารักษาโรค ตั้งอยู่ใน จ.ปทุมธานี ขณะช่วยกันยกรถเข็นกระเป๋าของสนามบินฯขึ้นไปบนกระบะหลังรถปิกอัพอีซูซุ สีขาว ติดหลังคาทึบ ทะเบียน ปง 3120 กรุงเทพมหานคร ฝากระโปรงท้ายมีข้อความเขียนไว้ว่า “ยาและเวชภัณฑ์” จึงเข้าตรวจค้นพบรถเข็นกระเป๋ารวม 5 คัน ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานฯและเจ้า-หน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ มารับตัวไปสอบขยายผล
เบื้องต้นนายศุภกรรับสารภาพว่า เคยเห็นคนอื่นขโมยรถเข็นกระเป๋าไปขายมาแล้วหลายราย ได้เงินดี จึงชักชวนนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ให้มาร่วมขโมยรถเข็นกระเป๋าบ้าง
โดยใช้รถของบริษัทที่นายอภิสิทธิ์ทำงานอยู่เป็นพาหนะในการขน เริ่มทำมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งถูกจับได้รวมระยะเวลา 7 เดือน คิดเป็นรถเข็นที่ขโมยไปขายประมาณ 500 คัน โดยจะลงมือในช่วงวันหยุดตอนกลางคืน นำไปขายที่ร้านรับซื้อ ของเก่าชื่อร้านไทยฐามณี เลขที่ 53/1-2 หมู่ 9 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ มีนาง ฐิติรัตน์ ทองสา อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของ โดยรับซื้อในราคาคันละ 960 บาท จากราคาเต็มคันละ 17,500 บาท เงินที่ได้มาก็จะแบ่งกันคนละครึ่ง
ด้าน พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ ทางตำรวจ สภ.ราชาเทวะ และตำรวจ บก.ภ.จ.สมุทรปราการ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นร้านรับซื้อของเก่าของนางฐิติรัตน์ ที่ย่านหนองจอก
พบของกลางเป็นซากชิ้นส่วนรถเข็นกระเป๋าในสนามบินสุวรรณภูมิจำนวนกว่า 500 คัน ถูกถอดแยกชิ้นส่วน เป็นอะไหล่จำพวกล้อยาง ขอบพลาสติก ส่วนตัวรถที่เป็นสเตนเลสถูกส่งต่อไปโรงหลอมหมดแล้ว คิดเป็นมูลค่าชิ้นส่วนที่ได้กลับคืนมาเพียง 1 แสนบาทเท่านั้น จึงแจ้ง ข้อหารับซื้อของโจรกับนางฐิติรัตน์ และคุมตัวไว้ดำเนินคดีเช่นกัน
“สำหรับรถเข็นกระเป๋าของสนามบินฯมีจำนวน 9,000 คันเศษ ถูกโจรกรรมไปหลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 3,000 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 52 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ทางบริษัทไทยแอร์พอร์ตกราวด์เซอร์วิส ได้มีการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อสอบสวนติดตามคนร้ายทั้งหมด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครั้งแรก เมื่อช่วงปลายปี 2550 ได้ผู้ต้องหา 2 คน รถเข็นของกลาง 4 คัน ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 23 ส.ค.51 จับผู้ต้องหาได้ 2 คน รถเข็นของกลาง 9 คัน ทั้ง 2 คดี ยังอยู่ระหว่างดำเนิน คดีในชั้นศาล ก่อนจะมาจับกุมนายศุภกรและนายอภิสิทธิ์ได้เป็นรายที่ 3 ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 กลุ่มปฏิเสธว่าไม่เคย รู้จักกันหรือทำงานร่วมกันมาก่อน อยู่ระหว่างสอบขยายผลว่ามีส่วนเชื่อมโยงกันหรือไม่ต่อไป” ผบช.ภ.1 สรุป