ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดอ่านคำพิพากษาวันนี้ 9 โมงเช้า คดีเมียหมอ "ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์" หมอเจ้าของสถาบันกวดวิชาชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "เปมิกา" ข้อหาเป็นชู้กับสามี เรียกเงินค่าทดแทน 27 ล้าน เผยคำบรรยายฟ้องระบุเหตุการณ์สนิทสนม เกิดตั้งแต่กลางปี"49 และมามีสัมพันธ์ลึกซึ้ง จนกลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อต้นปี"50
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษา เวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ในคดี หมายเลขดำ 511/2550
ที่นางอลิสา ทมทิตชงค์ ภรรยาของน.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาแอพพลายด์ ฟิสิกส์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต อดีตเพื่อนสาวคนสนิทของน.พ.ประกิตเผ่า เรื่องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนทำนองชู้สาว จำนวนทุนทรัพย์ 27 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นางอลิสา ทมทิตชงค์ โจทก์เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของน.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์
โดยสมรสกันตามประเพณีอยู่กินฉันสามีภรรยา ตั้งแต่ปีพ.ศ.2537 มีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมาเมื่อประมาณกลางปีพ.ศ.2549 จำเลยคือน.ส.เปมิกา ได้เข้ามาตีสนิทกับน.พ.ประกิตเผ่า สามีของโจทก์ และมีความสัมพันธ์สนิทสนมกันมากขึ้น จนกระทั่งถึงต้นปีพ.ศ.2550 จำเลยได้บังอาจแสดงตนเปิดเผยต่อสาธารณชนและบุคคลทั่วไป ว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาว โดยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่า การที่มารดาและพี่ชายของสามีโจทก์ นำสามีโจทก์ไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลศรีธัญญา จ.นนทบุรี นั้น เป็นการสมคบร่วมกันนำตัวสามีโจทก์ไปคุมขังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ความจริงแล้ว สามีโจทก์ป่วยเป็นโรคจิตเวช อันนำมาซึ่งผลแห่งคดีนี้ จำเลยมุ่งหวังที่จะนำสามีโจทก์ไปอยู่กับจำเลย อันเป็นการใช้สิทธิที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
นอกจากนี้จำเลยยังให้ข่าวต่อสื่อมวลชนทุกแขนง โดยเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาว กับสามีโจทก์อีกหลายครั้ง
การกระทำของจำเลยได้แสดงตนโดยชัดเจนเปิดเผยโดยที่โจทก์ไม่รู้เห็นเป็นใจและยินยอม ให้สามีโจทก์และจำเลยกระทำดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อความสัมพันธ์อันดี และการกินอยู่ฉันสามีภรรยา จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าว