อาสาฯตร.แค้นแฟนปืนจี้ใน รพ.

อส.ตชต.เมืองขุนแผนแค้นรักคุดถูกแฟนสาวพนักงานฝ่ายบุคคล รพ.ดังบอกเลิก ควงปืนลูกซองสั้นบุกจี้เป็นตัวประกัน

หวังเจรจาปัญหาหัวใจ แต่ตกลงกันไม่ได้เลยฉุนจัด ทำร้ายทุบตีฝ่ายหญิงจนน่วม ก่อนลงมือข่มขืนจนสลบคาห้องทำงาน สุดท้ายตำรวจเข้าเกลี้ยกล่อมจนยอมออกมามอบตัว แต่ปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน เหยื่อสาวแฉคบหาเป็นแฟนกันแค่ 2-3 เดือน แต่ทนนิสัยขี้หึง-ชวนทะเลาะไม่ไหวเลยขอเลิก
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.ย. พ.ต.ท.เรวัช สุขสมบูรณ์ สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

รับแจ้งมีเหตุจี้ตัวประกันภายใน รพ.เอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผกก. และกำลังไปที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล ประตูถูกล็อกจากด้านในอย่างแน่นหนา โดยทราบเบื้องต้นว่าภายในมีคนร้ายเป็นชาย ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจี้จับเจ้าหน้าที่หญิงไว้เป็นตัวประกัน ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยเหลือ ส่วนฝ่ายชายตะโกนออกมาว่าเป็นแฟนกันและมาตกลงปัญหารัก
 
ทาง พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ได้พยายามเกลี้ย กล่อมอยู่เป็นเวลานาน กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ฝ่ายชายจึงยอมเปิดประตูออกมามอบตัว

พร้อมทั้งมอบปืนลูกซองเบอร์ 12 ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อภายหลังว่า นายชรัญธร ขันวิจิตร์ อายุ 31 ปี เป็นอาสาสมัครตำรวจชุมชนประจำตำบล (อส.ตชต.) ของเขต อ.เมือง สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ ส่วนภายในห้องพบร่าง น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของโรงพยาบาลฯ นอนหมดสติอยู่ที่โซฟารับ แขก จึงรีบนำตัวไปปฐมพยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน จากการตรวจของแพทย์เบื้องต้นทราบมีอาการเป็นลม และมีร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งที่หน้าท้องและที่ลำคอซึ่งเป็น  รอยคล้ายถูกบีบอย่างแรง นอกจากนี้ยังมีแผลฉีกขาดบริเวณข้อมือ เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลจน ได้สติ
 
หลังจากนั้น น.ส.นิด ให้การกับตำรวจว่า ตนเคยเป็นแฟนกับนายชรัญธร โดยคบหากันมาได้ประมาณ 2-3 เดือน

แต่นายชรัญธรมักชอบหึงหวง และทะเลาะกันเป็นประจำ จนตนทนไม่ไหวจึงขอเลิก และได้ไปทำบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน จนกระทั่ง นายชรัญธรได้บุกมาหาที่ห้องฝ่ายบุคคลเพื่อเคลียร์ปัญหา โดยมีอาวุธปืนพกมาข่มขู่ตนด้วย เมื่อพูดคุยตกลงกันไม่ได้นายชรัญธรได้ลงมือทำร้ายตน โดยทุบที่ท้องและบีบคอ ก่อนจะข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่และหมดสติไป
 
ด้านนายชรัญธร ให้การว่า ตนรู้จักกับ น.ส.นิด ได้ประมาณ 5 เดือน แต่เพิ่งมาอยู่ด้วยกันแบบไม่เปิดเผยได้ประมาณ 2 เดือน

เนื่องจากพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ชอบตน ทำให้ฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่างและบอกเลิกตน ทำให้เกิดความเครียดเพราะยังอาลัยอาวรณ์แฟนสาวอยู่ จึงได้คิดสั้นนำปืนพกประจำกายบุกเข้าไปที่ห้องทำงานฝ่ายหญิงเพื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจ ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้ลงมือทำร้าย น.ส.นิดจริงแต่ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด
 
ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ เปิดเผยว่า กรณีข่มขืน น.ส.นิดนั้นนายชรัญธรยังให้การปฏิเสธ ซึ่งจะต้องสอบสวนฝ่ายผู้เสียหายเพิ่มเติม

พร้อมนำตัวไปพิสูจน์หาร่องรอยการข่มขืน เพื่อเป็นหลักฐานการดำเนินคดี ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายชรัญธรว่าหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียอิสรภาพ ทำร้ายร่างกาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หากผลการตรวจออกมาว่าฝ่ายหญิงถูกข่มขืนด้วยก็จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายชรัญธรต่อไป.