ต่อต่อยเด็กตาย1 ตีแบดติดต้นไม้หินขว้างโดนรัง

สลดสามพี่น้องถูกต่อรุมต่อยเสียชีวิต 1 สาหัส 2 ราย เหตุเพราะความไร้เดียงสา ใช้ก้อนหินและเศษดินขว้างกิ่งไม้เพื่อเก็บลูกขนไก่ สุดท้ายพลาดถูกรังต่อแตกฮือ รุมต่อยเด็กจนตาย

เหตุการณ์เศร้าสลดในครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน พ.ต.ต.สุพิศ แจ้งสว่าง สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.อ่างทอง รับแจ้งจากโรงพยาบาลอ่างทองว่า มีเด็กถูกตัวต่อไม่ทราบสายพันธุ์ต่อยเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูอีก 2 ราย

ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลโพธิ์ทอง เบื้องต้นทราบว่าถูกตัวต่อต่อยมาจากวัดเกาะ หมู่ 2 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นบริเวณหอผู้ป่วยเด็ก พบด.ญ.นิภาพร วีระไสย อายุ 2 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 122/2 หมู่ 6 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีบาดแผลเป็นรอยเหล็กในของตัวต่อที่บริเวณลำคอ ศีรษะ และลำตัว หลายแห่ง มีนางสงัด ศรีมงคล อายุ 38 ปี ผู้เป็นแม่นั่งร่ำไห้อย่างเวทนาอยู่ข้างศพ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.ยงวิทย์ วีระไสย หรือแบงก์อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนอนุบาลโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต ถูกต่อต่อยที่ศีรษะและใบหน้าหลายสิบแห่ง จนใบหน้าบวมบูด อาการสาหัสนอนรักษาตัวในห้องไอซียู และ ด.ญ.สิริประภา วีระไสย หรือหญิง อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นพี่สาวถูกต่อยที่ขาและลำตัว 13 แห่ง แพทย์ต้องให้เด็กทั้งหมดนอนพักรักษาอาการที่โรงพยาบาล เพื่อรอดูอาการแทรกซ้อนและผลข้างเคียง

จากการสอบสวน ด.ญ.รัชนี แช่มเชื้อ อายุ 15 ปี ทราบว่า ตนและญาติหลายสิบคนเดินทางมางานเผาศพญาติที่วัดเกาะ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ ขณะที่นั่งอยู่ในศาลาหน้าเมรุ สังเกตเห็น ด.ญ.นิภาพร ขี่คอ ด.ช.ยงวิทย์ ออกมาจากบ้านพัก ซึ่งอยู่ข้างกำแพงวัด และ ด.ญ.สิริประภา ได้เดินตามออกมาในลักษณะหยอกล้อกัน และวิ่งเข้ามาเล่นตีแบดในลานวัด บริเวณใต้ต้นพิกุลที่ต่อทำรังอยู่ ขณะที่เด็กๆ กำลังเล่นกันอยู่ ลูกขนไก่ลอยไปติดอยู่บนต้นไม้ดังกล่าว เด็กๆ จึงนำไม้ไปเขี่ยลูกขนไก่ แต่ไม้สั้นเขี่ยไม่ถึง ดังนั้นจึงนำก้อนดินก้อนอิฐ และเศษไม้ขว้างปา จนตัวต่อแตกฮือออกมาจากรัง และรุมต่อยสามพี่น้อง จนทำให้เด็กทั้งสามคนวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน แต่ฝูงต่อสีดำยังคงบินไล่รุมต่อยสามคนพี่น้องอย่างไม่ลดละกระทั่งวิ่งล้มลงที่หน้าศาลา ซึ่งคนที่มางานศพรีบเข้าไปช่วยอุ้มหลบหนี พร้อมกับนำตัวส่งโรงพยาบาล

ด้านน.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าเด็กคงจะมีอาการเจ็บปวดตามเนื้อเยื่อ จนเกิดอาการช็อก อีกสาเหตุหนึ่งคือพิษเหล็กในที่ทำให้ปวดบวม จะทำให้เส้นเลือดขยายในจุดที่เป็นอันตราย ส่งผลต่อหลอดลม คือหายใจไม่ออกและพิษมีผลต่อไต ซึ่งผึ้ง ต่อหรือแตนถือว่าเป็นอันตรายใกล้ตัวที่สามารถป้องกันได้ โดยไม่ควรไปแหย่หรือรังแก มิเช่นนั้นอาจถูกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่นายสาทิตย์ ชงกรานต์ทอง ผอ.รร.อนุบาลโพธิ์ทอง กล่าวว่า ครอบครัวดังกล่าวมีฐานะยากจนมาก แต่ลูกแต่ละคนมีนิสัยและมารยาทดีมากๆ และยังเป็นที่รักของครูและผู้ที่พบเห็น ด.ช.ยงวิทย์ และ ด.ญ.สิริประภา ถือว่าเป็นเด็กที่เรียนเก่ง โดยทั้งคู่สอบได้เกรด 3.5 มาโดยตลอด ที่สำคัญ ด.ช.ยงวิทย์ ในฐานะลูกชายคนโต ต้องแบกรับภาระในครอบครัวสูง บางครั้งอยู่ในภาวะกดดัน แต่ก็ไม่เคยท้อแท้