เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้รับ แจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้คอขู่ทำร้ายตัวเอง อยู่ภายในสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขต ดินแดง กทม.
จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม ผกก.สน.สุทธิสาร ทราบ เดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อม ด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน ที่บริเวณห้องโถงชั้นล่างสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เจ้าหน้าที่ตำรวจพบนายพิณ มีทรัพย์มั่น อายุ 48 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 20 หมู่ 13 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะสีดำ ใช้มีดปอกผลไม้ความยาวประมาณ 1 คืบ ส่วนของคม มีดกดจ่ออยู่ที่ลำคอตัวเอง ท่ามกลางผู้คนมุงดูจำนวนมาก พ.ต.อ.เจริญ และ พ.ต.อ.สุรเดช จึงเข้าไปพยายามพูดจา เกลี้ยกล่อมให้วางมีด ขณะเดียวกันก็คอยดูแลไม่ให้ไทยมุงเข้าไปใกล้ เนื่องจากเกรงว่านายพิณจะกดดันทำร้ายตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายพิณใช้มีดจี้คอ ตัวเองปากก็พร่ำรำพันระบายความในใจว่า
“ผมมาจาก สุพรรรณ เป็นเกษตรกร เป็นหนี้นอกระบบกว่าหมื่นบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ไม่ได้จ่ายมาหลายเดือนแล้ว ยังติดหนี้ ค่าเช่าที่ทำเกษตร 30 ไร่ กว่า 3 เดือนแล้ว เป็นเงิน 3 หมื่นบาท ไปขอกู้เงินจาก ธกส. ก็ไม่ให้กู้ เพราะไม่มีหลักทรัพย์ มาค้ำประกัน อีกทั้งลูกชายกำลังจะจบปริญญาตรี ก็ไม่มีเงินส่งเรียน ลูกสาวเรียน ม.2 ก็ไม่มีเงินซื้อเสื้อนักเรียนให้ใหม่ เคยไปยื่นเรื่องที่สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ไปหานายบรรหาร ไปกระทรวงการคลัง ก็ไม่มีใครช่วยเหลือได้เลย เครียดมาก”
หลังจากปล่อยให้นายพิณพูดระบายความอัดอั้นในใจออกมาแล้ว พ.ต.อ.เจริญ และ พ.ต.อ.สุรเดช ก็เข้าไปปลอบโยนเกลี้ยกล่อมจนนายพิณเริ่มมีท่าทีอ่อนลง
และยอมยื่นมีดที่จี้คอตัวเองให้แก่ตำรวจในที่สุด โดยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานประมาณ 2 ชม. จากนั้นจึงนำตัวนายพิณ เข้าไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องรับแขกของสถานีเอ็นบีที
ต่อมา พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เปิดเผยว่า นายพิณเครียดเรื่องหนี้สิน และไม่มีทางออก จึงมาที่เอ็นบีทีเพื่อออกรายการ “ร่วมมือร่วมใจ” ระหว่างที่รอ เกิดการเครียดจึงชักมีดปอกผลไม้ที่พกมาด้วยจี้คอ ตัวเอง หลังจากนี้คงให้ทางรายการ “ร่วมมือร่วมใจ” และทาง พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม ผกก.สน.สุทธิสาร ช่วยกัน หาทางออก โดยจะไม่แจ้งข้อหา และจับกุมนายพิณแต่ อย่างใด จากการตรวจสอบกระเป๋าสะพายของนายพิณ หนุ่มใหญ่เลือดสุพรรณบุรี พบเอกสารเป็นหนังสือร้องเรียน ส่งถึงสำนักเลขาธิการสำนักนายกฯ และยังมี กระดาษที่เขียน ระบายความในใจถึงเรื่องที่เป็นหนี้เป็นสิน และไม่มีทางออก
ต่อมา เวลา 13.30 น. นายพิณ มีทรัพย์มั่น ได้ออกรายการ “ร่วมมือร่วมใจ” ที่มีนายประมาณ เลืองวัฒนวณิชย์ น.ส.ศิริเสาวภา เอกเอี่ยมศิลป์ และ น.ส.ปิยฉัตร กรุณานนท์ 3 พิธีกรรายการ พูดคุยถึงปัญหา และเรื่องที่ใช้มีดจี้คอ ตัวเอง
นอกจากนี้ ทางรายการยังได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ นายธีระพงษ์ ตั้งธีรสุนันท์ ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาทางช่วยเหลือนายพิณ ซึ่งนายธีระพงษ์ รับปากว่าจะให้ทีมงานลงไปช่วยเหลือในสิ่งที่ทำได้ โดยจะมองในเรื่องของความดี และความตั้งใจเป็นหลักค้ำประกัน เป็นกรณีพิเศษ ขณะเดียวกันก็ออกตัวว่า คนอื่นที่ไม่มี ความเดือดร้อนในลักษณะนี้ อย่ายกกรณีนี้มาอ้าง และจะขอ เข้าไปดูแลเป็นกรณีไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุหนุ่มสุพรรณฯเครียดเรื่องหนี้สินรุงรัง ใช้มีดจี้คอตัวเอง มีพนักงานสถานีเอ็นบีทีกว่าร้อยคน นำโดยนายธิติ สร้อยเพ็ชร์ ยื่นข้อเสนอเจรจากับนายกฤษณะพร เสริมพานิชย์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ขอให้พนักงานเอ็นบีทีที่ยังไม่ได้บรรจุ ได้บรรจุเป็นพนักงาน ประจำ และปรับเงินเดือนให้เป็นธรรม หลังจากไม่ปรับเงินเดือนมาหลายปีแล้ว