ตามล่าโจรยาบ้าแหกด่านตำรวจกรุง ตร.เผยชัดแล้วมี 2 คน รู้ชื่อแล้วหนึ่งเป็นชาวกำแพงเพชร
ตร. เตรียมหลักฐานเพื่อขอหมายจับ ระบุเป็นการจับกุมยาบ้าครั้งใหญ่สุดในพื้นที่ห้วยขวาง รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ชี้คน ร้ายรู้ว่าช่วงนี้กำลังตำรวจส่วนใหญ่ต้องไปดูแลความสงบในพื้นที่การชุมนุม จึงนัดมาส่งยากัน แท็กซี่แฉนาทีระทึกถูกปืนจี้ชิงรถขับหลบหนี
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วย ขวาง ช่วยราชการชุดเฉพาะกิจ บก.น.1 ออกตรวจพื้น ที่แล้วพบรถยนต์ปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน บค 2243 อุทัยธานี จอดอยู่ที่ลานจอดรถห้างฯโรบิน สัน สาขารัชดาภิเษก
ต่อมาชายคนร้ายลงจากรถจยย. รับจ้าง เดินมาขึ้นรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น แต่คนร้ายกลับขับรถปิกอัพหลบหนี มุ่งหน้าไปทางแยกลาดพร้าว โดยระหว่างทางไล่ชนรถยนต์ชาวบ้านจนเสียหายไปหลายคันและโยนกระเป๋าสีดำทิ้ง ตร.ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ที่ล้อหลัง จน รถวิ่งไปต่อไม่ได้ คนร้ายจึงลงจากรถที่ถนนพระราม 9 แล้วถืออาวุธปืนไปจี้คนขับรถแท็กซี่ สีชมพู-ขาว ทะเบียนป้ายแดง ช-9229 กทม. ชิงขับหลบหนีไป ส่วนกระเป๋าที่คนร้ายทิ้งไว้ พบว่าภายในมียาบ้า 45,000 เม็ด
รู้ตัวแล้ว-ล่าระทึก โจรยาบ้าซิ่งหนีตร.
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 22 ก.ย. พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุญาตศาลอาญาออกหมายจับคน ร้ายแล้ว
โดยขณะนี้ทราบแล้วว่าคนร้ายมีด้วยกัน 2 คน โดยหนึ่งในนั้นเราทราบชื่อที่อยู่แล้วตามหลักฐานเอกสารที่คนร้ายทิ้งไว้ในรถคือ นายไพรัช ภูกันแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 19 ต.วังชะพลู อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร โดยขณะนี้ได้จัดชุดไล่ล่าออกติดตามคนร้ายแล้ว ส่วนอีกคนก็กำลังสืบ สวนสอบสวนอยู่ว่าเป็นใคร แต่ตอนนี้ต้องตามจับนายไพรัช ให้ได้ก่อนโดยจะประสานข้อมูลกับเจ้าหน้า ที่ป.ป.ส.
ส่วนของกลางที่ตำรวจเราจับกุมครั้งนี้ก็ถือเป็นยาบ้าที่จับมากที่สุดในพื้นที่ห้วยขวาง โดยยาบ้ามีมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
คนร้ายน่าจะรู้ว่าช่วงนี้กำลังตำรวจส่วนใหญ่ต้องไปดูแลความสงบในพื้นที่การชุมนุม จึงนัดมาส่งยากันในตอนนี้ แต่ด้วยความสามารถของตำรวจชุดสืบสวนที่ออกตรวจพื้นที่ แล้วพบว่ารถยนต์ของคนร้ายมีพิรุธจึงขอเข้าตรวจค้น จริงๆ แล้วตำรวจชุดนี้เป็นฝ่ายสืบสวนของสน.ห้วยขวาง แต่มีความสามารถชุดเฉพาะกิจของ บก.น.1 จึงขอตัวไปช่วยราช การ แต่ยังออกตรวจหาข่าวในพื้นที่อยู่
ต่อมานายสยาม ชะโรยศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ต.บัวตูม อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย เจ้าของรถแท็กซี่ สีชมพู-ขาว ป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ช-9229 กทม.ที่ถูกคนร้ายชิงไป เดินทางเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน
ก่อนเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาส่งผู้โดยสาร 2 คนเป็นสามีภรรยากัน โดยจอดรถอยู่บริเวณปากซอยถนนพระราม 9 ซอย 2 เป็นจังหวะที่ผู้โดยสารกำลังเปิดประตูลงไป ก็เห็นคนร้ายกระโดดลงจากรถปิกอัพแล้ววิ่งถือปืนเข้ามาที่รถแล้วบอกว่า ให้ลงมาอย่าดับเครื่อง ตนตกใจจึงลงจากรถ จากนั้นคนร้ายจึงขับรถหลบหนีไป ซึ่งภายในรถยนต์ยังมีโทรศัพท์มือถือพร้อมกับกระเป๋าเงินมีเงินสด 900 บาท สำหรับรถแท็กซี่คันนี้เป็นของสหกรณ์แท็กซี่ปทุมวัน และจากการตรวจสอบ GPRS พบว่ารถยังอยู่ในกรุงเทพฯ และเมื่อโทรศัพท์เข้ามือถือตัวเองก็พบว่า ยังติดอยู่แต่ไม่มีคนรับสาย