เมื่อ 22 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า วิกฤตนมผงปนเปื้อนสารเคมีในจีนลุกลามใหญ่โต
เมื่อพบเหยื่อเด็กป่วยเพิ่มเป็น 53,000 ราย นอกจากนี้ภาวะตื่นตระหนกยังเกิดขึ้นที่ฮ่องกง หลังจากพบเด็กป่วยด้วยอาการนิ่วในไต เพราะดื่มนมผงปนเปื้อนสารเมลามีนเพิ่มเป็นรายที่ 2 รายงานแจ้งว่าเหล่าพ่อแม่ชาวฮ่องกงต่างพาลูกไปตรวจร่างกายตามโรงพยาบาลต่างๆ ด้วยความวิตกว่าลูกอาจกินสารเมลามีนที่ใช้ผลิตพลาสติกปนเปื้อนอยู่ในนมผง หรือผลิตภัณฑ์นมชนิดต่างๆ หลังพบเด็กป่วยเพราะนมปนเปื้อนเป็นเด็กหญิงวัย 3 ขวบ และเด็กชายวัย 4 ขวบเป็นกรณีแรกนอกจีนแผ่นดินใหญ่
ส่วนที่จีน กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า ตัวเลขของเด็กเล็กที่ล้มป่วย จากการบริโภคนมปนเปื้อนสารเมลามีนเข้าไปเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากสัปดาห์ก่อน หรือเกือบ 13,000 คน
ซึ่งร้อยละ 80 อายุราว 2 ปี ทำให้มีเด็กป่วยทั้งหมดในจีนเกือบ 53,000 คน ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 2 ขวบ ดื่มนมผงยี่ห้อซานลู่ ยี่หลี และกวงหมิง ในจำนวนนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 12,892 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย
ด้านนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนลงพื้นที่เยี่ยมเด็กป่วยที่โรงพยาบาลเด็กปักกิ่ง
ก่อนจะเดินทางไปตรวจดูแผนกนมในซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมกดดันผู้ผลิตนมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ขณะที่ประชาชนแห่ไปซื้อนมผงยี่ห้อนอก และจำนวนมากเปลี่ยนมาบริโภคนมถั่วเหลืองแทน
วันเดียวกัน นายหลี่ ชางเจียง หัวหน้าสำนักงานควบคุมคุณภาพสินค้า ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตามแรงกดดันจากเหตุการณ์นี้
โดยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดที่เซ่นให้เหตุการณ์นี้ หลังจากนายอู๋ เซียนกัว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองสือเจียจวงถูกปลดไปก่อน ช่วงที่พบสารปนเปื้อนในนมผงยี่ห้อซานลู่ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่พัวพันกับเหตุอื้อฉาวครั้งนี้ถูกจับแล้ว 18 ราย