ภัยพนันบอลโลกแฉนักเรียนหญิงขายตัวหาเงินแทง

นร.มัธยมแฉเองพนันบอลมีทุกโรงเรียน เด็กสาวบางรายคลั่งบอลหนักขายตัวหาเงินเล่นพนัน ขณะที่เด็กผู้ชายมีทั้งเดินโพยเอง เบี้ยวค่าหอพักมาแทงได้เสียครั้งละพันบาท "เดอะตุ๊ก" เผยปีนี้ผีพนันบอลพุ่ง 6 แสนคน เป็นวัยรุ่น 5 แสนคน "เจ๊เบียบ" กรี๊ดลั่น จี้ ผอ.ช่อง 7 เตือน "แจ๊คกี้" พิธีกรรายการ "เจาะลึกศึกฟุตบอลโลก 2006" ให้ระวังคำพูดในการจัดรายการสด อย่ารุนแรงเกินไป

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดโครงการเยาวชนสีขาว เสริมสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนต่อต้านการพนันฟุตบอล โดยได้นำเยาวชน ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ 500 คน ร่วมกับศิลปินนักร้องค่ายจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ นำโดย อี๊ด วงฟลาย-สำราญ ช่วยจำแนก วงกะลา และน้องพลับ-จุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ออกเดินรณรงค์ต่อต้านการเล่นพนันฟุตบอล บริเวณถนนราชปรารภ ถนนราชวิถี และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมทั้งให้เยาวชน ร่วมกันทำสัจจะอธิษฐานไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันฟุตบอล เพื่อทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

จากนั้นมีการจัดเวทีเสวนา หัวข้อ "สอนน้องดู และเล่นฟุตบอลอย่างมีคุณค่า" มีนายปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เรืออากาศโทหญิงขนิษฐา ไวยรัชพาณิชย์ ประธานชมรมหอพักเขตปริมณฑล เจ้าของสถานประกอบการหอพัก ครู-อาจารย์ และตัวแทนนักเรียนจากสถานศึกษาเข้าร่วมเสวนา เรืออากาศโทหญิงขนิษฐา กล่าวว่า หอพักมีกฎระเบียบห้ามเล่นการพนันอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่ามีการเล่น พนันกันทุกเรื่องไม่เฉพาะพนันบอล ส่วนในหอพักช่วงฤดูกาลแข่งขันฟุตบอล จะพบมากว่าเด็กไม่จ่ายเงินค่าหอ เพราะเอาเงินไปเล่นพนันหมด บางคนพ่อแม่ส่งเงินมาให้ก็ไม่มีปัญหา แต่บางคนไม่มีเงินก็จะไปขโมยของจากคนข้างห้องไปขาย ส่วนผู้หญิงก็จะหาวิธีไม่ค่อยดีนักในการหาเงิน เช่น เอาตัวเข้าแลก จึงอยากเตือนเด็กไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการพนันฟุตบอล ด้านนายปิยะพงษ์ กล่าวว่า กระแสฟุตบอลโลก 2006 แรงมากกว่าทุกครั้ง จากการวิจัยพบว่าคนไทยที่เล่นการพนันเป็นกิจวัตร มี 2.4 ล้านคน ปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 6 แสนคน เป็นวัยรุ่นถึง 5 แสนคน ส่วนวัยทำงานมี 1 แสนคน

นายอนุชิต (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี นักเรียนอาชีวะโรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่ง กล่าวว่า เพื่อนในโรงเรียนอาชีวะมีการเล่นพนันบอลกัน โดยจะมีเพื่อนที่เป็นเด็กเดินโพย มารับโพยแทงบอลจากเพื่อนในโรงเรียนช่วงพักกลางวัน ทำให้ ครูอาจารย์ไม่รู้ โดยจะแทงกันคู่ละ 500 บาท เป็นอย่างต่ำ ยิ่งช่วงนี้มีข่าวเรื่องนี้มาก ทำให้เพื่อนหลายคนตื่นเต้นไปตามกระแสฟุตบอลโลกฟีเวอร์ ทั้งที่ไม่เคยเล่นพนันฟุตบอล แต่เมื่อมีเพื่อนมาชักชวนให้เล่น ประกอบกับอยากได้เงินด้วย จึงทดลองเล่นดู บางคนได้ แต่บางคนก็เสีย ไม่ทราบว่าแต่ละคนไปหาเงินมาจากไหนบ้าง แต่ก็มีเงินมาเล่นพนันครั้งละหลายพันบาท โดยที่พ่อแม่และครูไม่รู้เรื่อง

ด้านนายสิทธิชัย (สงวนนามสกุล) นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ก็เห็นเพื่อนในโรงเรียนเล่นพนันบอลกันตลอด ในกลุ่มเพื่อนจะแทงครั้งละ 50-100 บาท โดยจะเล่นกันช่วงเย็นหลังเลิกเรียน หรือบางคนก็จะโทรฯ ไปแทงบอลกับโต๊ะพนันบอล ซึ่งพบเห็นได้หลายแห่ง ทั้งในซอยบ้านและในหมู่บ้าน ตนเองก็เคยเล่นบอล แม้แต่เด็กผู้หญิงในโรงเรียนก็เล่นพนันบอลเช่นกัน จะเล่นหนักกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ เช่นแทงครั้งละเป็นพันบาท เพราะขายตัวเอาเงินมาเล่นพนัน ที่นิยมเล่นจะเป็นบอลเดี่ยว คือ แทงคู่เดียวอย่างน้อยคู่ละ 100 บาท ส่วนบอลชุดต้องแทงอย่างน้อย 3 คู่ เงินขั้นต่ำ 50 บาท ตนมองว่าพนันบอลเล่นง่าย และได้เงินง่ายกว่าเล่นหวย ทำให้คนยังเล่นกันไม่เลิก การแก้ปัญหาจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้เปิดเสรีไปเลย

ที่กระทรวงมหาดไทย นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึง ผอ. สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เพื่อขอให้ตักเตือนการใช้คำพูดของ "แจ๊คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา พิธีกรรายการ "เจาะลึกศึกฟุตบอลโลก 2006" ออกอากาศสด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ทั้งก้าวร้าว และรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน โดยกล่าวถึงนักเรียนที่แสดงความรำคาญ ไล่เพื่อนที่วิพากษ์วิจารณ์การแข่งขันฟุตบอลโลก โดยไม่สนใจการเรียนให้ออกไปพูดนอกห้องเรียน โดยนายแจ๊คกี้ ได้ใช้คำพูดว่า "บอลโลก 4 ปี มีครั้งหนึ่ง ไม่น่าพูดอย่างนี้ แหม ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน ผมจะตบให้คว่ำเลย"

"ดิฉันเห็นว่าการที่เด็ก และเยาวชนสนใจเรื่องกีฬาเป็นเรื่องที่ดี และควรส่งเสริม เพื่อจะได้ไม่หมกมุ่นกับอบายมุขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด เพศสตรี การพนัน เกม สื่อลามกต่าง ๆ แต่พิธีกรควรจะให้คำแนะนำ หรือใช้คำพูดที่มีเมตตา อ่อนโยนกับเด็กและเยาวชน เพราะพิธีกร ดารา นักร้อง นักแสดงเป็นบุคคลสาธารณะที่มีอิทธิพลต่อเด็กและเยาวชนอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำผ่านสื่อทุกประเภทล้วนแต่มีส่วนสร้างสรรค์ หรือทำลายสังคม จึงอยากให้ทาง ผอ.ช่อง 7 แจ้งให้พิธีกรคนดังกล่าวได้รับทราบ และระมัดระวังในการจัดรายการสดครั้งต่อไปด้วย" นางระเบียบรัตน์ กล่าว.