เดลินิวส์
ที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ วันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจเเห่งชาติที่ 385/2549 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 49 เรื่องการเเต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความของนายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือที่รู้จักในนาม ป.ประตูน้ำ มีหนังสือร้องเรียนกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจเเห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการถึงลูกถึงคน มีลักษณะคุกคามผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ เเละที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิ ผล หรือเสธ.เเดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้มีหนังสือร้องเรียนกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่าได้เเสดงหมายจับต่อสื่อมวลชนเเละให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง อันเป็นการจูงใจให้สาธารณชนเข้าใจว่า ผู้ร้องเป็นคนร้ายโดยที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา
ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้รายงานข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ฐานะประธานอนุกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามคำสั่งศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดเเห่งชาติ ที่ 44/48 ลงวันที่ 17 พ.ย. 48 ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยตำเเหน่งจเรตำรวจเเห่งชาติ ซึ่งทาง พล.ต.อ.โกวิท จึงได้ตั้งคณะกรรมการ สืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการสืบสวนพร้อมด้วยคณะกรรมการอีกจำนวนหนึ่ง จากคำสั่งดังกล่าวถ้าคณะกรรมการสืบสวนเห็นว่า กรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่มีการสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น ให้ประธานกรรมการรายงานข้อเท็จจริงมาโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวนายสุกิจ เเละพล.ต.ขัตติยะ ยังได้ร้องเรียนกล่าวหาอีกว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขัดคำสั่งสำนักงานตำรวจเเห่งชาติที่ 855/2548 ลงวันที่ 16 พ.ย.48 ว่าด้วยเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การเเถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยเเพร่ภาพต่อสื่อมวลชน เเละการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ที่ลงนามคำสั่งโดย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ด้วย.