ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย ได้เข้าร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ว่ามีแก๊งคนร้ายข้ามชาติก่อเหตุฉ้อโกงประชาชนผ่านบัตรเครดิต โดยกระทำเป็นขบวนการใหญ่ มีผู้เสียหายทั้งชาวไทยและต่างชาติตกเป็นเหยื่อกว่า 5,000 ราย มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ต่อมา ทาง บช.ก.ได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนจนทราบว่ามีชาวจีนเป็นตัวการใหญ่ ว่าจ้างคนไทยให้ไปทำหน้าที่ CALL CENTER ในประเทศจีน เพื่อโทรศัพท์ติดต่อหลอกลวงเหยื่อจากประเทศไทย จึงรวบรวมหลักฐานประสานทางการจีนทลายเครือข่ายแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว ก่อนจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาชาวไทยทั้งหมดกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยวันนี้
ผบช.ก.ยังเปิดเผยถึงพฤติการณ์ของแก๊งคนร้ายว่าจะทำงานเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ โดยหลอกลวง เหยื่อว่าเป็นผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นหนี้บัตรเครดิต หรือถูกโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต
เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทบัตรเครดิตหรือเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้เหยื่อทำธุรกรรม หรือแก้ไขข้อผิดพลาดที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเป็นการหลอกให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มไปเข้าบัญชีของแก๊งคนร้ายที่เปิดไว้ โดยมีหัวหน้าแก๊งเป็นชาวจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี พร้อมกันนี้ อยากฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปว่า ล่าสุดพบแก๊งคนร้ายลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก แต่ เปลี่ยนวิธีการหลอกเหยื่อ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร แจ้งคืนภาษีเงินได้บุคคลเพื่อหลอกเหยื่อไปทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็ม มีผู้เสียหายบางรายหลงเชื่อสูญเสียเงินไปเป็นล้านบาทแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังประสานข้อมูลกับทางการจีน เพื่อสกัดกั้นแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว เชื่อว่าขบวนการใหม่นี้น่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกันกับแก๊งที่ถูกจับกุม ส่วนข้อมูลภาษีของเหยื่ออาจจะมีการโจรกรรมมาจากระบบอินเตอร์เน็ตที่เปิดให้บริการยื่นภาษีแบบออนไลน์ ดังนั้นอยากให้ระมัดระวัง เพราะอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
