ฆ่าข่มขืนสาว โอปะเรเตอร์

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ร.ต.ท.ชาติชาย ไชยบุบผา ร้อยเวร สภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งพบศพหญิงสาวลอยอยู่ในสระน้ำ

ริมทางเข้าสถานที่ก่อสร้างบึงเทพยารีสอร์ต หมู่ 19 ต.ศาลาแดง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภิรมย์ ปรียากร ผกก.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ไปตรวจสอบ เมื่อหน่วยกู้ภัยนำศพขึ้นมาจากสระน้ำ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางชุลี แดงกูล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ 22 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา สภาพศพท่อนล่างเปลือยท่อนบนสวมเสื้อคอปกสีชมพูและเสื้อยกทรงสีดำ แต่ถูกถลกขึ้นมาคลุมใบหน้าและศีรษะ ที่ลำคอถูกรัดด้วยเข็มขัดหนังสีน้ำตาล ศีรษะและใบหน้าถูกตีด้วยของแข็ง ข้อเท้าทั้งสองข้างถูกมัดด้วยเชือกสีน้ำเงิน และผูกติดกับกระสอบปุ๋ยที่ภายในมีแผ่นปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่บรรจุอยู่ 5 แผ่น น้ำหนักประมาณ 30 กก. เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
 

สอบปากคำนายพิภพ นีซัง อายุ 41 ปี สามีของผู้ตายให้การว่า นางชุลี ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานโอปะเรเตอร์ หจก.ซีบี เพนท์ ใกล้ที่เกิดเหตุ

ส่วนตนทำงานเป็นพนักงาน รปภ. บริษัท เคพี เซฟตี้ จำกัด ปกติผู้ตายจะเลิกงานเวลา 21.00 น. ตนจะขี่รถ จยย.ไปรับกลับบ้าน แต่ถ้าตนต้องเข้าเวรตอนกลางคืน ผู้ตายจะให้เพื่อนขับรถยนต์มาส่งที่ปากทางเข้าโครงการก่อสร้างบึงเทพยารีสอร์ต และจะเดินไปตามเส้นทางที่เกิดเหตุอีกประมาณ 500 เมตร ซึ่งรถยนต์จะไม่สามารถวิ่งผ่านเข้าออกเส้นทางนี้ได้ แต่เนื่องจากตนและผู้ตายเห็นว่าเป็นเส้นทางลัดและมีไฟส่องสว่างตลอดทาง อีกทั้งยังมี รปภ.เฝ้าอยู่ที่ป้อมยามด้านหน้าโครงการทุกคืน ผู้ตายจึงไม่กลัวที่จะเดินเข้าบ้านตามลำพัง 

กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายไปทำงานตามปกติ ตนโทร.ไปหาช่วง 4 ทุ่มวันเดียวกัน แต่ก็ติดต่อผู้ตายไม่ได้ คิดว่าโทรศัพท์อาจจะแบตเตอรี่หมด จึงไม่ได้โทร.หาอีก

เพราะต้องทำงานควบกะไปจนถึงเย็นวันที่ 17 ก.ย. ถึงได้โทร.หาผู้ตายอีกครั้ง แต่ยังติดต่อไม่ได้เช่นเดิม หลังเลิกงานได้ไปรับผู้ตายที่หน้าบริษัทแต่ไม่พบ สอบถามเพื่อนผู้ตายบอกว่า คืนวันที่ 16 ก.ย. ขับรถไปส่งผู้ตายกลับบ้านเหมือนเช่นทุกครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่เห็นผู้ตายมาทำงานอีกเลย ด้วยความเป็นห่วงรีบกลับมาดูผู้ตายที่บ้านก็เห็นว่าบ้านยังคงปิดเงียบ ออกมาสอบถาม นายประเสริฐ เรืองจันทร์ อายุ 49 ปี รปภ.เฝ้าป้อมยามหน้าโครงการ นายประเสริฐก็บอกว่าไม่เห็นผู้ตายกลับเข้ามา จึงช่วยกันนำไฟส่องหาตามเส้นทาง กระทั่งพบศพลอยอยู่ในสระน้ำ มั่นใจว่าเป็นศพนางชุลี ภรรยา จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ 

ด้านนายประเสริฐ เรืองจันทร์ พนักงาน รปภ. ให้การว่า ที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่การก่อสร้างบึงเทพยา รีสอร์ตมีเนื้อที่กว้างกว่า 100 ไร่ แต่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างเพราะยังอยู่ในระหว่างปรับแต่งพื้นที่ จึงไม่มีคนงานพักอาศัย

จะมีแต่ รปภ. แค่ 2 คน คือตนกับนายสุชาติ เทียนมณี อายุ 25 ปี ไม่ทราบที่อยู่ จะสลับกันเฝ้าอยู่ ที่ป้อมยามคนละคืน และในคืนวันที่ผู้ตายหายไปเป็นเวร ของนายสุชาติ  พ.ต.อ.ภิรมย์ ปรียากร ผกก.สภ.บางน้ำเปรี้ยว เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นเมื่อดูจากสภาพศพของผู้ตายแล้วสันนิษฐานว่า คนร้ายต้องการข่มขืนผู้ตาย โดยผู้ตายกับคนร้ายอาจรู้จักหรือเคยเห็นหน้ากันมาก่อน เมื่อเหยื่อต่อสู้ขัดขืนจึงถูกคนร้ายรัดคอฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม จากนั้น นำศพไปถ่วงน้ำเพื่ออำพรางคดี

อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจสอบจากสถาบันนิติเวชก่อนว่าผู้ตายถูกข่มขืนด้วยหรือไม่

ส่วนประเด็นการฆ่าชิงทรัพย์ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนหมดแล้ว เหลือเพียงนายสุชาติ เทียนมณี รปภ.หนุ่ม ซึ่งภายหลัง เกิดเหตุได้หายตัวไปและยังไม่สามารถติดต่อได้ จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัย หากพบหลักฐานว่านายสุชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จะขออำนาจศาลออกหมายจับในทันที