2ขวบกลืนมะนาวติดคอดับสยองน้าล้างตู้เย็นหยิบเข้าปาก

หนูน้อยวัย2 ขวบ กลืนลูกมะนาวลงคอ ติดหลอดลมขาดอากาศหายใจ เหตุเกิดขณะที่น้าสาวกำลังทำความสะอาดตู้เย็น เก็บข้าวของ ผัก ผลไม้และลูกมะนาวออกจากตู้เย็นวางกองบนพื้น เด็กหยิบไปอมเล่น จนเกิดเหตุสลด

เมื่อเวลา09.30 น. วันที่ 17 กันยายน ร.ต.ท.ประสงค์ นาฝั้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตาก รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ ด.ช.สุรินทร์ ศีลพร หรือน้องพี อายุ 2 ขวบ เสียชีวิตเพราะกลืนลูกมะนาวขนาดเท่าลูกปิงปองติดหลอดลม ญาติพาส่งโรงพยาบาล แต่สิ้นใจก่อนจะถึงมือแพทย์ จากนั้นแพทย์ได้นำผลมะนาวที่คีบออกมาจากลำคอส่งมอบให้ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน  

จากการสอบสวนทราบว่าน้องพี หนูน้อยวัย 2 ขวบ เป็นบุตรชายของนายบรรพต ศีลพร อายุ 39 ปี และนางสมคิด ศีลพร อายุ 28 ปี โดยมี น.ส.วาสนา เปียเอี่ยม ซึ่งเป็นน้า เป็นผู้เลี้ยงดูร่วมกับมารดาของนางสมคิด อยู่ที่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 4 บ้านปางสา ต.ป่ามะม่วง อ.เมือง จ.ตาก เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานรับจ้างในต่างจังหวัด 

ช่วงเกิดเหตุยายของน้องพีไปทำธุระนอกบ้านขณะที่ น.ส.วาสนาทำความสะอาดตู้เย็น หยิบข้าวของต่างๆ วางกองกับพื้นบ้าน และไม่ทันได้ระวัง น้องพีได้หยิบผลมะนาวไปอมเล่นจนลงไปติดในลำคอ

"ขณะที่ฉันเก็บกวาดคราบน้ำแข็งในตู้เย็นอยู่นั้น ได้นำผัก ปลา ผลไม้ รวมถึงผลมะนาว ไปวางกองอยู่กับพื้นข้างๆ ตู้เย็น โดยไม่ทันได้เห็นหลานชายหยิบผลมะนาวไป ไม่ทราบว่าหยิบไปตั้งแต่เมื่อไร จนทำให้หลายชายต้องเสียชีวิต" น.ส.วาสนากล่าว

 นายบรรพต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีบุตรกับนางสมคิด  2 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.3  ส่วนคนเล็กคือน้องพี ทั้งสองต่างก็อยู่ในความดูแลของนางถ้วน ผู้เป็นยาย ส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียใจที่บุตรชายมาด่วนจากไปก่อนวัยอันควร

"น้องพี เป็นเด็กที่น่ารัก มีพัฒนาการที่เกินวัย เมื่อตอนอายุได้ 1 ขวบ นอกจากจะเดินได้เองแล้ว ยังพูดจาโต้ตอบกับพ่อแม่ และญาติพี่น้องได้ทุกคน เป็นที่รักใคร่ของคนในบ้าน และเพื่อนบ้านใกล้เคียง แม้ว่าจะทำงานเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่เมื่อโทรศัพท์พูดคุยกับลูกชายที่บ้านตอนเย็นเป็นบางครั้ง ก็ทำให้ผ่อนคลายหายเหนื่อย ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำงานเก็บเงินสักก้อน เอาไว้ส่งเสียลูกทั้งสองเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี หวังให้ได้งานทำที่ดีไม่ต้องมาลำบากเหมือนพ่อและแม่ ที่เรียนมาน้อย" นายบรรพตกล่าว

นางสมคิดกล่าวว่า ก่อนน้องพีเกิด สามีอยากจะมีบุตรชายไว้สืบสกุล จึงพากันเดินทางไป จ.นครราชสีมา เพื่อบนบานศาลกล่าวกับท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม เพื่อขอบุตรชาย แล้วก็สมหวัง ก่อนหน้านี้มีญาติผู้ใหญ่หลายคนเคยทักว่า จะได้บุตรชายที่เป็นคนเก่ง เป็นเทพตามความเชื่อที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ให้ระมัดระวังและดูแลรักษาไว้ให้ดี เพราะบุตรชายคนนี้จะมีอายุอยู่ได้ไม่นาน จึงบอกกับแม่และญาติพี่น้องขอให้ช่วยกันดูแลลูกทั้งสองให้ดี เพราะตนจะต้องไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด สุดท้ายเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็มาเกิดขึ้น นึกไม่ถึงว่าน้องพีจะมาด่วนจากพ่อกับแม่ไปเร็วเหลือเกิน  

หากฉันอยู่ในเหตุการณ์จะยอมพลีชีวิตเข้าแลกเพื่อช่วยลูกให้ฟื้นคืนมา แม้ว่าจะเสียใจมากที่สุดในชีวิตนี้ แต่ก็ไม่อาจจะไปโทษใครได้ เพราะว่าพวกเขาทำดีที่สุดแล้ว นึกเสียว่าเป็นบุญเป็นกรรมที่เราต่างทำกันมาจากชาติปางก่อนน้อยนิด จึงต้องมาเสียลูกอันเป็นที่รักไป นางสมคิดกล่าว 

นางสมคิดยังกล่าวอีกว่าความรู้สึกในตอนนี้ยังคงทำอะไรไม่ค่อยถูก ยังคงทำใจไม่ได้ ส่วนการที่จะขอมีลูกเพิ่มอีกคนจะได้หรือไม่นั้นความหวังคงจะริบหรี่ เพราะทำหมันไปแล้ว 

ด้านนางถ้วนเปียเอี่ยม อายุ 56 ปี ยายของน้องพี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุออกไปทำธุระนอกบ้าน บางครั้งก็จะหางานทำรับจ้างทั่วไปตามหมู่บ้านเพื่อหาเงินไว้ใช้จ่ายในครอบครัวในยามขัดสน เพราะมีรายได้น้อย ไม่นึกว่าจะต้องมาเสียหลานชายไปเพราะอุบัติเหตุไม่คาดคิด 

ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนของคดีด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ พิมพิสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองตาก กล่าวว่า ต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือไม่ หากเกิดจากความประมาทของผู้หนึ่งผู้ใด ก็อาจจะเป็นความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต 

ผศ.นพ.อดิศักดิ์ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย และการป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ตามธรรมชาติของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี มีพฤติกรรมชอบหยิบของใส่ปากอยู่แล้ว และเด็กอายุ 2 ปี มีโอกาสเกิดการสำลักมากกว่าเด็กอายุ 3 ปี แต่ละปีจึงมีรายงานการเสียชีวิตของเด็กไทยจากการสำลักอุดตันท่อทางเดินหายใจปีละ 80-100 ราย มีสาเหตุเกิดจากเมล็ดผลไม้ต่างๆ มากที่สุด เช่น เมล็ดถั่วแข็งๆ เมล็ดลำไย เมล็ดละมุด เมล็ดมะขาม ฝรั่งชิ้นเล็กๆ แข็งๆ และรวมถึงมะนาวด้วย 

นอกจากนี้ยังมีขนมเยลลี่ถ้วยเล็กๆ ลูกอมทอฟฟี่แข็งๆ ลูกชิ้น ไส้กรอกชิ้นเล็กๆ ส่วนของใช้และของเล่นก็จะเป็นจำพวกลูกปัด และของเล่นที่มีคำเตือนว่า ต่ำกว่า 3 ปีห้ามเล่น เพราะจะมีส่วนประกอบบางชิ้นมีขนาด 3.2x6 ซม.อยู่ เช่น ตุ๊กตาบาร์บี้ จะมีแท่งลิปสติกเล็กๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก เพื่อป้องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก จึงมีการนำกระป๋องเด็กไทยปลอดภัยที่มีความกว้าง 3.2x6 ซม.ไปไว้ตามคลินิกเด็กต่างๆ เพื่อให้ผู้ปกครองลองนำสิ่งของต่างๆ หยอดเข้าไปในกระป๋อง หากสิ่งของไม่ตกลงไปในกระป๋องแสดงว่าสิ่งของนั้นปลอดภัยสำหรับเด็ก

"มะนาวมีลักษณะพื้นผิวกลมและลื่น สามารถเข้าไปอุดตันหลอดลมได้ง่าย ทั้งนี้ วัสดุหรือสิ่งของกว้าง 3.2 ซม. ยาวไม่เกิน 6 ซม. หากเด็กนำเข้าปากจะเกิดการสำลักและเข้าไปอุดตันหลอดลมได้ หากสิ่งของมีความกว้าง 4 ซม. จะเข้าปากเด็กไม่ได้ และหากเป็นสิ่งของเล็กและบาง มีความยาวเกิน 6 ซม. อย่างดินสอ จะไม่ทำให้สำลัก" ผศ.นพ.อดิศักดิ์กล่าว

ส่วนวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้นผศ.อดิศักดิ์กล่าวว่า กรณีมีสิ่งแปลกปลอมเข้าอุดตันหลอดลมเด็ก จะมีเวลาช่วยชีวิตเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ต้องปฐมพยาบาลด้วยการพยายามดันสิ่งแปลกปลอมออกมาจากหลอดลม ด้วยการทำให้เกิดแรงดันในทรวงอก กรณีเด็กต่ำกว่า 1 ปี ใช้วิธีตบกระดูกสันหลัง กดหน้าอก 5 ครั้งสลับไปมา กรณีเด็กอายุมากกว่า 1 ปี ใช้วิธีกดท้อง โดยผู้ช่วยเหลืออยู่ด้านหลังเด็ก ซึ่งกำลังอยู่ในท่านั่ง ใช้มืออ้อมจากด้านหลัง วางกำปั้นใต้ลิ้นปี่ แล้วกดท้องลงไปเข้าหาลำตัวแล้วเฉียงขึ้น เพื่อทำให้เกิดแรงดันในท้องเพื่อดันสิ่งแปลกปลอมออกมา ทั้งนี้ วิธีการปฐมพยาบาลต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างชำนาญ และควรเป็นความรู้พื้นฐานของพ่อแม่ที่จะต้องดูแลเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์