รถทัวร์โดยสารสายสุพรรณฯ-กรุงเทพฯซิ่งสยองแข่งกับรถทัวร์อีกคัน กระทั่งแล่นมาถึงนครปฐมเสียหลักเสยเสาไฟฟ้ากลางถนนแล้วปีนขึ้นไปพลิกคว่ำบนราวสะพาน
ผู้โดยสารตายคาที่ 4 รายรวดบาดเจ็บกว่า 60 คน ขณะที่โชเฟอร์ตีนผีถูกอัดก๊อบปี้คาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่งัดอยู่ 3 ชั่วโมงกว่าจะนำส่งร.พ. แต่ไม่นานก็ตายเป็นศพที่ 5 เพราะเสียเลือดมาก ผู้โดยสารแฉโชเฟอร์นรกซิ่งมาตลอดทาง ยิ่งมาเจอรถทัวร์อีกคันเลยขับแข่งพายุ หวิดจะแหกโค้งหลายครั้ง คนในรถเตือนก็ไม่ฟัง กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้ ตร.ส่งศพตรวจพิสูจน์หาสารเสพติด และเช็กเรื่องใบขับขี่ ชี้เจ้าของรถต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
โชเฟอร์รถทัวร์โดยสารซิ่งนรกพาผู้โดยสารตายหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.35 น.วันที่ 15 ก.ย. ร.ต.ท.สุรินทร์ บัวคง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม
รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.นครปฐมว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสารพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก บนถนนมาลัยแมน (กม.4-5 เดิม)หมู่ที่ 6 ตำบลวังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วยพ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก. นำกำลังพร้อมหน่วยกู้ภัยรุดไปตรวจสอบพบรถบัสโดยสารสีส้ม-ขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 10-0419 สุพรรณบุรี เลขประจำสายข้างรถ 88-30 พลิกตะแคงขวาสภาพพังยับเยิน ล้อหน้าพร้อมคานหลุดไปรวมอยู่กับเพลาล้อหลัง โดยตัวถังรถยังค้างอยู่ระหว่างบนราวสะพานข้ามคลองวังตะกู หน้ารถด้านคนขับเสียบตกลงไปอยู่ใต้สะพาน
ตายหมู่5ศพรวด-ทัวร์ซิ่งปีนขอบสะพาน!
ในรถมีผู้โดยสายชาย-หญิงที่โดยสารมากว่า 60 คนได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า
โดยพบผู้เสียชีวิตนอนกองทับกันอยู่ตรงช่วงหน้ารถใกล้คนขับรวม 4 รายเป็นหญิง 3 ชาย 1 ทราบชื่อคือนางบีบี ปาทาน อายุ 42 ปี แรงงานชาวพม่าพักอาศัยอยู่กับนายจ้างที่บ้านเลขที่ 36 ม.9 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม, น.ส.สุวรรณี ศรีทองคำ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.8 ต.ทุ่งบัว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม, นางสุวรรณ โสภาวงษ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.11 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และนายอำนวย สิทธิพาชัยกุล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1904 ม.6 ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
บริเวณที่นั่งคนขับพบร่างนายสมมาตร ภู่โสภา อายุ 29 ปี โชเฟอร์ถูกอัดก๊อบปี้ติดกับที่นั่งแต่ยังมีสติ
นำพระเครื่องพร้อมตะกรุดที่คล้องคออยู่มาไหว้ขอบารมีให้ช่วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพต้องใช้เครื่องตัดถ่างโลหะตัดตัวถังรถออกทีละน้อยอย่างช้าๆ โดยมีทีมแพทย์คอยช่วยอำนวยการและช่วยชีวิต โดยใช้เวลาพยายามนำร่างของนายสมมาตร ออกมาได้ถึง 3 ชั่วโมง พบบาดแผลฉกรรจ์ที่ขาทั้ง 2 ข้างและลำตัว เมื่อพาส่งร.พ.ไม่นานก็เสียชีวิตเป็นรายที่ 5 เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียเลือดมาก ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 67 คนเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ลำเลียงออกจากตัวรถนำส่งร.พ.ศูนย์นครปฐม ร.พ.สนามจันทร์ และ ร.พ.เทพากร โดยบางส่วนญาติเดินทางมารับตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือที่บาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์ทำแผลแล้วอนุญาตให้กลับได้
สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และพยานซึ่งเป็นผู้โดยสารให้การว่า รถบัสคันเกิดเหตุเป็นรถป.2 สายกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี
ออกจากต้นทางที่จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยนายสมมาตร โชเฟอร์ขับซิ่งมาตลอดทาง ยิ่งเมื่อมาเจอรถบัสโดยสารสายด่านช้าง ก็เริ่มขับแข่งกันมาตั้งแต่ช่วงอำเภออู่ทอง จุดสุดท้ายที่จอดรับผู้โดยสารเป็นชาย 1 หญิง 1 และเด็กอีก 2 คนที่ช่วง กม.12-13(แยกหนองงูเหลือม) เป็นจุดสุดท้าย ก่อนที่โชเฟอร์จะยิ่งเร่งความเร็วเพื่อตามคู่แข่งให้ทัน จนเกือบจะแหกโค้งตรงทางโค้งทัพหลวงจนผู้โดยสารตกใจส่งเสียงร้องวี้ดว้ายลั่นรถ แต่คนขับไม่สนใจยังคงขับด้วยความเร็ววิ่งขวามาเกือบตลอดทาง จนถึงจุดเกิดเหตุล้อหน้าด้านขวารถ ได้ปีนขึ้นเกาะกลางชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างจนขาดแล้วชนเข้ากับราวสะพานปีนขึ้นสะพานพลิกตะแคง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า นายสมมาตร ภู่โสภา คนขับรายนี้มีใบอนุญาตขับรถโดยสารสาธารณะหรือไม่
และได้มีการตรวจร่างกายตามระยะเวลากำหนดของกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ รวมทั้งทางพนักงานสอบสวนได้ขอให้แพทย์ตรวจเลือดนายสมมาตร ด้วยว่ามีสารต้องห้ามอยู่ในร่างกายหรือไม่ ซึ่งหากพบหรือว่าร่างกายไม่พร้อม นายจ้างหรือเจ้าของรถโดยสารอาจต้องมีส่วนได้รับโทษในความประมาทด้วย