หนุ่มขี่วิน จยย.รับจ้าง ถูกวัยรุ่นรุมแทงสาหัส วิ่งหนีขอความช่วยเหลือคนในซอยประชาสงเคราะห์ 14 แต่ไม่ยอมให้พาไปหาหมอ สุดท้ายตายต่อหน้าต่อตา พ่อรุดดูศพร่ำไห้ ยันลูกไม่เคยบอกมีเรื่องวิวาทกับใคร
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 กันยายน พ.ต.ต.คำพันธ์ แสนทวีสุข สารวัตรเวร สน.ดินแดง ได้รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 451 ซ.ประชาสงเคราะห์ 14 แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลรามาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น ภายในบ้านพบศพนายเอก บุญก้ำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1607 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กทม. สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนขายาว มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่ชายโครงด้านซ้าย นอนจมกองเลือด
สอบสวนนางไพลิน อ่อนพิมพ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 3 ต.โพธิ์ชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ให้การว่า
เช่าตึกแถวดังกล่าวมาได้ 3 ปีแล้ว ในราคาเดือนละ 4,000 บาท เพื่อขายข้าว ปกติเวลาประมาณ 03.00 น. จะตื่นมานึ่งข้าวสวยทุกวัน ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งนึ่งข้าว ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ โดยมีบาดแผลถูกแทงมาเลือดโชกตัว ตนจึงเรียกสามีให้ลงมาช่วยกันพาไปหาหมอ
"ชายคนดังกล่าวไม่ยอมให้พาไปหาหมอ เพียงแต่ขอเข้าไปซ่อนตัวอยู่ด้านใน ซึ่งคิดว่าต้องถูกรุมทำร้ายและวิ่งหนีมา เมื่อเดินไปดูหน้าบ้านก็ไม่เห็นว่ามีใครวิ่งตามมา จากนั้นผู้ตายร้องขอน้ำดื่ม สามีจึงไปหาน้ำมาให้ดื่มและไปโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็เสียชีวิตแล้ว" นางไพลินกล่าว
ต่อมานายแสน บุญก้ำ อายุ 53 ปี บิดาของนายเอก เดินทางมาดูศพพร้อมกับญาติอีกประมาณ 3 คน เมื่อเห็นศพถึงกับพากันร้องห่มร้องไห้เข้าไปกอดศพ จนตำรวจต้องพาออกมาสงบสติอารมณ์ด้านนอก โดยนายแสนให้การว่า ลูกชายมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่วินหน้าพณิชยการจำนงค์ และพักอยู่ด้วยกันที่บ้านในซอยประชาสงเคราะห์ ซอย 5 ก่อนเกิดเหตุลูกชายออกมาขี่จักรยานยนต์รับจ้างตามปกติตั้งแต่เช้า และกลับเข้าบ้านช่วงค่ำเพื่อกินข้าว จากนั้นก็ออกไปขี่รถต่อ จนกระทั่งมาทราบว่าถูกแทงเสียชีวิต ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีเรื่องกับใครและไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาทะเลาะวิวาทกับใคร จึงไม่ทราบว่าคนร้ายที่รุมฆ่าลูกชายเป็นใคร" นายแสนกล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน พ.ต.ต.คำพันธ์กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานเห็นว่า
ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาล้มอยู่ที่บริเวณกลางซอยร่วมรักษา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตประมาณ 200 เมตร จากนั้นวิ่งเข้าไปในบ้านของนางไพลิน และเสียชีวิตดังกล่าว คาดว่าน่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นในซอยจนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บและหลบหนีมาขอความช่วยเหลือจนเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้ประสานตำรวจฝ่ายสืบสวนให้ออกสืบหาข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ จะเชิญญาติและเพื่อนของผู้ตายมาสอบสวนว่าผู้ตายมีเคยเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครหรือไม่ อย่างไร