เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ขณะที่ พ.ต.ท.วินัย สืบหิรัญ สารวัตรเวร สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติหน้าที่บนโรงพัก
ได้ มีนายฉัตรชัย ยังฤทธิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186 หมู่ 7 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความว่า ทำงานเป็นลูกจ้างขับรถของบริษัทมหาชัยขนส่ง ภาคใต้ จำกัด ตั้งอยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และได้ขับรถ 10 ล้อ ทะเบียน 70-4853 สงขลา บรรทุกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เต็มคันรถมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จากประเทศมาเลเซีย เพื่อนำส่งให้บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค (บ้านหว้า) อ.บางปะอิน
นายฉัตรชัยให้การอีกว่า เมื่อตอนเที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา ได้ขับรถถึงบริษัทที่หมาย แต่นำของส่งบริษัทไม่ได้ เพราะไม่มีพนักงานรับสินค้า
ตนจึงขับรถไปจอดนอนพักที่โรงแรม เคเค ริมถนนจอมพลปอ ต.ตลิ่งชัน อ.บางปะอิน โดยนำรถจอดไว้ที่ลานจอดรถของโรงแรม พร้อมปิดล็อกประตูอย่างดี ก่อนเข้าพักห้องเบอร์ 101 และได้หลับสนิทไปด้วยความอ่อนเพลีย กระทั่งเช้าตื่นนอนเตรียมตัวจะขับรถไปส่งสินค้า พอเดินมาที่ลานจอดรถ ทำเอาแทบลมจับ เมื่อพบว่ารถหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วจึงมาแจ้งความดังกล่าว
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.วินัย สืบหิรัญ สารวัตรเวรเจ้าของคดี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศไกร วงษ์ดาวไทย ผกก. นำกำลังตำรวจเดินทางไปตรวจที่โรงแรมเคเค พบเป็นโรงแรมขนาดเล็ก
จากการสอบปากคำนางภาวิณี (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี แคชเชียร์ให้การว่า หลังนายฉัตรชัย เข้าพักไม่นานก็มีชายไทยอายุประมาณ 30 ปี นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่เสื้อยืดแขนยาว ขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ ไม่ทราบทะเบียน มาขอเปิดห้องพัก และบอกว่าขอเลือกห้องที่ อยู่ใกล้กับคนขับรถสิบล้อ ตนจึงเปิดห้องที่ 102 ให้ แคชเชียร์โรงแรมให้การอีกว่า หลังเปิดห้องพักแล้ว ชายคนดังกล่าวได้เดินไปเดินมาภายในโรงแรมหลายรอบ แถมยังมาถามที่เคาน์เตอร์ด้วยว่า ที่นี่ที่ไหนชื่อโรงแรมอะไร ถนนด้านหน้าออกไปแล้วจะไปไหน ตนไม่เอะใจได้ตอบคำถามไป กระทั่งใกล้สว่างมีคนขับรถสิบล้อออกไป คล้อยหลังไม่นานชายที่เช่าห้องพักก็มาคืนห้องแล้วรีบขับรถเก๋งตามออกไปติดๆ
ขณะที่นางรุ่งนภา แสงสกุล อายุ 50 ปี แม่ครัวโรงแรมให้การว่า พบเห็นคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ ใช้กุญแจเปิดประตูรถและสตาร์ตเครื่องถอยออกไปโดยไม่มีการงัดแงะรถแต่อย่างใด ตนคิดว่าเป็นเจ้าของรถจึงไม่สนใจ
ต่อมาตำรวจนำกล้องวงจรปิดของโรงแรมมาเปิดดู พบว่ากล้องได้บันทึกภาพของคนร้ายที่มาเปิดห้องพักไว้ชัดเจน จากพยานหลักฐานลงความเห็นว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะวางแผนมาอย่างดี และรับรู้ความเคลื่อนไหวของการรับส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวด้วย โดยมีการขับรถสะกดรอยตามมาตลอดทาง ที่สำคัญคือมีการใช้กุญแจผีไขประตูรถและสตาร์ตเครื่องยนต์ คาดว่าทำกันเป็นขบวนการหลายคน ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
