สุดเหี้ยมฆ่าตัดคอปลัด อบต.หนุ่มขวัญใจชาวบ้านดับหน้าห้องเรียน!! แนวร่วมป่วนใต้สุดเหี้ยมซิ่ง จยย.ตามประกบปิกอัพเหยื่อ ได้จังหวะถล่มด้วยเอ็ม 16 ขณะจะไปทำงานรถเสียหลักพุ่งชนกำแพง โรงเรียนก่อนไปจอดสงบนิ่งหน้าอาคาร พาพวกวิ่งตามลากศพออกจากรถก่อนตัดคอยัดใส่ถุง ราดน้ำมันเผาแต่ไฟไม่ลุก ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของเด็กนักเรียนที่ยืนดูเหตุการณ์
เวลา 10.30 น. พ.ต.ท.จรัญ เหมแก้ว รอง ผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนระหว่างตำบล หน้าโรงเรียนบ้านอีบุ๊ หมู่ 3 ต.สะดาวา อ.ยะรัง
จึงสนธิกำลังเดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีโดยแบ่งกำลังเข้าไปสองเส้นทาง ปรากฏว่า ระหว่างทางมีทั้งตะปูเรือใบ และกล่องวัตถุต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถเข้าไปได้ ระหว่างนั้นชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปเคลียร์พื้นที่และทำลายวัตถุต้องสงสัย ซึ่งปรากฏว่าเป็นระเบิดปลอม ทันที ที่ไปถึงหน้าโรงเรียนที่เกิดเหตุ พบไทยมุงเป็นจำนวนมากจึงกันออกจากที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งตัดสัญญาณโทรศัพท์และรีโมต เพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุระเบิดซ้ำอีก
จากการตรวจสอบพบรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข 4303 ปัตตานี ที่ชนทะลุกำแพงโรงเรียนและไปจอดสงบนิ่งอยู่ที่หน้าห้องตัดผม ข้างชั้น ป.6 ในสภาพมีรอยกระสุนปืนพรุนรอบคันจนเสียหาย
ส่วนข้างรถด้านซ้ายพบศพชายถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ที่ลำตัว แต่ไม่มีศีรษะ และพบขวดน้ำมันเบนซินวางอยู่ใกล้ศพ ต่อมาทราบชื่อนายอัฐพงศ์ ก้อนลม อายุ 26 ปี ปลัด อบต.สะดาวา อ.ยะรัง อยู่บ้านเลขที่ 50/4 หมู่ 3 ต.แม่ละมาด อ.แม่ละมาด จ.ตาก ส่วนภายในรถพบอาวุธปืนสั้น 9 มม.ของผู้ตาย 1 กระบอก นอกจากนี้ ยังพบใบปลิว กระดาษ เอ 4 มีข้อความเขียนด้วยลายมือ สีน้ำเงินว่า “สำหรับผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตัดคอ และกำนันที่ถูกปิดปาก ต.คลองใหม่” เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบต่อไป
สอบสวนทราบผู้ตายเป็นปลัด อบต. ที่มีความขยัน และกินนอนกับชาวบ้านมาตลอดเกือบปีที่ได้ทำงาน ทำให้เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน
ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถคันดังกล่าวจะไปทำงาน แต่มาถึงหน้าโรงเรียนบ้านอีบุ๊ มีคนร้าย 4 คน ที่แฝงตัวซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงแบบไม่ยั้งกระสุนถูกกระจกด้านหน้ารถ ด้านข้างคนขับ และด้านกระจกหลังจำนวนมาก และถูกนายอัฐพงศ์ เสียชีวิต จากนั้นรถเกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนกำแพงและเสาอาคารเรียน ก่อนจะไปจอดสงบนิ่งอยู่หน้าอาคารเรียน ท่ามกลางความตกใจของเด็กนักเรียน ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่กว่าร้อยคน หลังรถจอด สงบนิ่งได้มีเด็กนักเรียนชั้น ป.6 ที่กำลังเรียนอยู่ใกล้กับรถที่พุ่งเข้าชน ได้ออกมาดู
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิด ขึ้นเมื่อมีคนร้าย 2 คน ตามเข้ามาลากศพนาย อัฐพงศ์ ออกจากรถ แล้ววางลงที่พื้นห่างจากห้องเรียนเล็กน้อย
ก่อนจะใช้มีดเชือด และตัดคอใส่ถุง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของเด็กนักเรียนที่เห็น เหตุการณ์ จากนั้นคนร้ายได้ราดน้ำมันเบนซิน ลงที่ศพแล้วจุดไฟเผาแต่ไฟไม่ลุก ก่อนจะพากันขึ้นรถจักรยานยนต์พร้อมถุงที่มีศีรษะของนายอัฐพงศ์ หลบหนีไป