เด็กถูกขังในรถ โดนแดดเผาดับ

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 ก.ย. พ.ต.ท.วัชร์วิทย์ ทับทิมไสย์ สารวัตรเวร สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร รับแจ้งมีเด็กนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ที่จอดอยู่ หน้าร้านขายของชำ ริมถนนสายมุกดาหาร- นิคมคำสร้อย หลัก กม.ที่ 2 จึงไปตรวจสอบ  

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กข 689 มุกดาหาร จอดติดเครื่องอยู่

ภายในรถบริเวณพื้นหน้าเบาะหลังพบศพ ด.ญ.นิตยา คำนนท์ หรือน้องฟิวส์ อายุ 3 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพถอดเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้น น้ำลายฟูมปาก มีเลือดออกทางหูและปาก ในมือขวายังกอดขวดน้ำพลาสติกที่เปิดดื่มไปจนหมดแล้วไว้แน่น ใกล้ศพมีเสื้อ รองเท้า และขวดน้ำดื่มที่เปิดดื่มหมดแล้วอีก 2 ขวดวางอยู่ แพทย์ รพ.นิคมคำสร้อย ชันสูตรศพไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกกระทำอนาจาร ก่อนระบุว่า เด็กเสียชีวิตมาแล้วราว 8-10 ชั่วโมง เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ส่วนสาเหตุที่เด็กนอนถอดเสื้อ และกอดขวดน้ำ น่าจะมาจากอุณหภูมิภายในรถยนต์คันดังกล่าวร้อนจัด เพราะรถจอดตากแดดอยู่ตลอดทั้งวัน ทำให้หนูน้อยผู้เคราะห์ร้ายต้องถอดเสื้อออก ส่วนขวดน้ำทั้ง 3 ขวด เป็นน้ำที่อยู่ภายในรถ คาดว่าหนูน้อยเป็นคนเปิดน้ำทั้ง 3 ขวดดื่มเอง ก่อนจะเสียชีวิตอย่างทุรนทุรายเป็นที่น่าเวทนา  

จากการสอบปากคำนายธวัช ทิตย์รัตน์ อายุ 40 ปี นายก อบต.นากอก อ.นิคมคำสร้อย เจ้าของรถยนต์

และเป็นคนขับรถมรณะให้การอ้างว่า ทุกเช้าก่อนไปทำงานที่ อบต.นากอก ตนจะต้องขับรถคันดังกล่าว นำลูกสาวคือ ด.ญ.สุชานันท์ ทิตย์รัตน์ วัย 3 ขวบ และน้องฟิวส์ ผู้ตาย ลูกสาวของนายไพร และนางปานทอง คำนนท์ เพื่อนบ้าน ไปส่งที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงาน อบต. นากอก ประมาณ 30 เมตร เป็น ประจำทุกวัน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกสาวไปธุระกับภรรยาไม่ได้ติดรถมาด้วย ตนจึงไปรับน้องฟิวส์ที่บ้านและพามาส่งที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กฯตามปกติ แต่ด้วยความเร่งรีบ เนื่องจากวันนี้จะมีการประชุม อบต.นากอก เกรงจะเข้า ประชุมไม่ทัน พอถึงที่จอดรถหน้าสำนักงาน อบต.นากอก ก็รีบลงจากรถวิ่งเข้าห้องประชุมทันที โดยยังไม่ได้ล็อกรถ และคิดว่าน้องฟิวส์ลงจากรถไปแล้ว จากนั้นก็นั่งทำงานอยู่บนสำนักงานทั้งวัน กระทั่ง 6 โมงเย็น เลิกงานก็ขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางหันไปมองที่เบาะด้านหลัง จึงพบศพน้องฟิวส์ดังกล่าว

หลังเกิดเหตุ พ่อแม่ของ ด.ญ.นิตยา ผู้ตาย เดินทางมารับศพลูกสาวด้วยความเศร้าโศกเสียใจ

ทันทีที่เห็นศพน้องฟิวส์ นางปานทอง คำนนท์ ผู้เป็นแม่ โผเข้ากอดร่างไร้วิญญาณของลูกสาวพร้อมปล่อยโฮร่ำไห้เป็นที่น่าเวทนา หลังสงบสติอารมณ์ได้ แม่ผู้สูญเสียกล่าวว่า ไม่ติดใจในสาเหตุการตาย คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ นายธวัชเองก็คงไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้เช่นกัน

พ.ต.ท.วัชรวิทย์ ทับทิมไสย์ สารวัตรเวร เจ้าของคดี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การฆาตกรรม ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อหากับนายธวัช เจ้าของรถมรณะแต่อย่างใด

เพราะต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมใกล้บริเวณที่เกิดเหตุเพิ่มเติมว่า นายธวัชกระทำการด้วยความประมาทจนเป็นเหตุให้ ด.ญ.นิตยา เสียชีวิต หรือว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเด็กขึ้นไปเล่นในรถเอง แล้วมือไปกดล็อกประตูแล้วเด็กเปิดประตูไม่ได้จนทำให้เสียชีวิต ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ย. พ.ต.ท.วัชรวิทย์ ทับทิมไสย์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ไปสอบพยาน ซึ่งเป็นครูในศูนย์รับเลี้ยงเด็กฯ อบต.นากอก ทราบว่าช่วงเช้าวานนี้ไม่มีใครเห็นน้องฟิวส์มาโรงเรียน แสดงว่าน้องฟิวส์ติดอยู่ในรถตั้งแต่ เช้าเวลาประมาณ 09.00 น. จนเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหากับนายธวัช ทิตย์รัตน์ นายก อบต.นากอก เจ้าของรถว่า กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยจะออกหมายเรียกนายธวัชมารับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังจากที่นายธวัชออกจาก รพ.นิคมคำสร้อย เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายธวัชเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นลมช็อกหมดสติ ญาติต้องนำตัวส่งรักษาที่ห้องไอซียูเป็นการด่วน 

ต่อมาในช่วงสายนางปานทอง คำนนท์ แม่น้องฟิวส์ ผู้เสียชีวิต พร้อมญาติๆได้นำศพลูกสาวไปบรรจุในสุสานวัดนากอก เพื่อเก็บไว้เป็นเวลา 3 ปี

ก่อนที่จะนำศพน้องฟิวส์ออกมาฌาปนกิจตามประเพณี โดยนางปานทอง กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตน และขอเตือนผู้ปกครองทุกคนที่มีรถยนต์ว่าอย่าประมาทเป็นอันขาด หากเป็นไปได้ควรสอนให้เด็กรู้จักปิด-เปิด และกดแตรรถยนต์ให้เป็น  เมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับน้องฟิวส์ จะได้มีคนมาช่วยทันก่อนที่จะเกิดการสูญเสีย อยากให้ลูกสาวตนเป็นกรณีสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเด็กคนไหนอีก ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วหัวอกผู้เป็นแม่ก็แทบสลาย