อารำคาญหลานร้องดัง โยนทารกลงน้ำ

สลดสาวจิตไม่ปกติ จับหลานวัย 7 วัน โยนน้ำดับอนาถ เผยระหว่าง แม่อาบน้ำ ฝากดูแลหลาน คาดเด็กตื่นนอน ร้องไห้ร้องไห้โยเย เสียงดัง จนอาเกิดอาการ เครียดไม่รู้จะแก้ปัญหา อย่างไร จึงก่อเหตุสลด แฉประวัติอาสาว สุดเศร้า ถูกข่มขืน ตั้งแต่ 11 ปีจนมีทางจิตและประสาท


เรื่องราวสุดสลดรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.ย. พ.ต.ท.ไชยวิวัฒน์ จันทร สวส. สภ.พานทอง จ.ชลบุรี

รับแจ้งเหตุมีเด็กทารกถูกโยนทิ้งในสระน้ำ หลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.บางหัก อ.พานทอง ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผกก. พ.ต.ต.เชาว์ ต่ายใหญ่จีด สว.สส. แพทย์ รพ.พานทอง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิจตุรธรรม ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช. พงษ์พัฒน์ คำสะอาด หรือน้องคิว อายุ 7 วัน นอนเสียชีวิตอยู่ในเปล ที่จมูกยังมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา ที่ร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง
 
จากการสอบสวน น.ส.มัณฑนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี แม่ของน้องคิว ให้การทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุนายพงศ์ศิริ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี สามีออกไปทำงานที่โรงงานจักรยานใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยตนอยู่บ้านกับ น.ส.แพท (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี น้องสาวนายพงศ์ศิริ และน้องคิว หลังจากทำงานบ้านและให้นมลูกเสร็จจึงเข้าไปอาบน้ำ โดยให้ น.ส.แพท ช่วยดูแลหลานที่กำลังนอนหลับอยู่ในเปล หลังอาบน้ำเสร็จออกมาไม่พบน้องคิวจึงสอบถาม น.ส.แพท ก็บ่ายเบี่ยงไม่รู้ว่าน้องคิวหายไปไหน จนกระทั่งสอบถามหลาย  ครั้ง น.ส.แพท จึงบอกว่าให้ไปดูที่สระน้ำหลังบ้าน เมื่อออกไปดูพบว่าน้องคิวจมน้ำเสียชีวิต ในสภาพหัวทิ่มลงไปในสระน้ำ จึงนำร่างขึ้นมาไว้ในเปลนอนแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่
 
สอบสวน น.ส.แพท ให้การวกวนไม่ได้ศัพท์ คล้ายมีอาการทางประสาท ด้านนายพงศ์ศิริ เปิดเผยว่า น.ส.แพท มีอาการทางประสาท เนื่องจากเมื่ออายุ 11 ขวบ ได้ถูกอาแท้ ๆ ข่มขืนหลายครั้ง

จนมีผู้ร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และทางมูลนิธิฯได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ โดยอยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯเป็นเวลา 2 ปี ก่อนกลับมาอยู่กับตน ด้าน พ.ต.อ.ปกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าน้องคิวคงตื่นนอนแล้วร้องไห้ส่งเสียงดังทำให้ น.ส.แพท เกิดอาการเครียดไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร จึงได้อุ้มหลานไปโยนทิ้งน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมส่งตัว น.ส.แพท ไปตรวจอาการทางจิตและประสาทก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์