ฆ่าโหดพยาบาลสาวหมกหอพักหลังร.พ.อุตรดิตถ์ เพื่อนไปตามที่ห้องให้ไปเข้าเวรแต่ปิดประตูดับไฟเงียบ คิดว่าหลับยังไม่ตื่น
แต่ผิดสังเกตจนรู้ว่าเสียชีวิต แจ้งตร.มาตรวจสอบ พบตายมาแล้วกว่า 6 ชั่วโมง พร้อมร่องรอยถูกข่มขืนฆ่า สร้อยคอและโทรศัพท์มือถือหายไป สืบสวนพบคบหาเป็นแฟนอยู่กับอดีตจนท.กู้ภัยมากว่าปี แต่มีเรื่องทะเลาะวิวาทถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ฝ่ายหญิงแจ้งความไปแล้ว 3 คดี ก่อนจะมาหาที่ห้องพักแล้วทะเลาะกันอีกรอบ ตร.ล่าตัวสอบเครียดเปิดปากรับสิ้น คุมตัวทำแผนทันที ญาติ-เพื่อนฮือรุมประชาทัณฑ์
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 4 ก.ย. พ.ต.ท.พิเชษฐ์พงศ์ ธนาบูรณศักดิ์ สารวัตรเวรสภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในหอพักพยาบาลหลังโรงพยาบาลอุตรดิตถ์
หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ เรืองประไพ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พ.ต.ท.สาฑิตย์ ศรีหมื่นไวย์ รองผกก.ป. พ.ต.ต.จตุรนต์ ปัจฉิม สว.สส. นำกำลังตำรวจรุดไปยังที่เกิดเหตุ ในห้องพักไม่มีเลขที่ ชั้น 3 พบศพ น.ส.วัชรี แก้วทองมา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 818 ถ.เขาน้ำตก ชุมชนคอกช้าง เทศบาลตำบลศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พยาบาลวิชาชีพ ระดับ 6 ประจำแผนกฉุกเฉินและพยาบาลกู้ชีพ ตึกอุบัติเหตุ ร.พ.อุตรดิตถ์ เสียชีวิตอยู่บนเตียง สภาพศพสวมเสื้อยืดสายเดี่ยวสีขาวลายดอกไม้สีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น มีผ้านวมห่มตั้งแต่ปลายเท้าปิดถึงคอ ไม่สวมเสื้อชั้นใน ใบหน้าเขียวคล้ำ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ พบคราบอสุจิเปรอะเปื้อนบนที่นอนและที่อวัยวะเพศของศพ ตรวจสอบทราบอีกว่า สร้อยคอหนัก 2 บาท 1 เส้น ที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ประจำ และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไปด้วย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ในห้องพักเพียงลำพัง
ก่อนพบศพมีเพื่อนพยาบาลมาตามให้ไปเข้าเวร แต่โทรศัพท์ติดต่อเข้ามือถือและที่ห้องพักแล้วไม่มีใครรับสาย คิดว่านอนยังไม่ตื่น เพื่อนพยาบาลด้วยกันจึงไปตามที่ตึก พบเห็นห้องมืดสนิท ประตูห้องถูกล็อกจากด้านนอก เคาะเรียกไม่มีเสียงตอบ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ชีพมาช่วยตรวจสอบ โดยถอดบานเกล็ดออกแล้วเอื้อมมือไปบิดกลอนประตู และเปิดประตูเข้าไป พบเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้หัวหน้าตึกทราบและแจ้งตำรวจมาชันสูตรพลิกศพ
ฆ่าพยาบาลสาว คาหอพักรพ.
ต่อมาตรวจตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของผู้ตาย เพื่อใช้เป็นเบาะแสจับกุมคนร้าย ทราบว่า ผู้ตายคบหาอยู่กับนายสถาพร เพ็งถา อายุ 25 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 7 ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อดีตเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ จ.อุตรดิตถ์ คบหากันเป็นแฟนมานานเกือบ 1 ปี ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ แต่ในช่วงระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ถึงขั้นตบตีกันเป็นประจำ จนเป็นเหตุให้ผู้ตายไปแจ้งความตำรวจสภ.เมืองอุตรดิตถ์ ในข้อหาบุกรุกและขโมยทรัพย์สินถึง 3 คดี
จากการสืบสวนยังพบอีกว่า ก่อนที่ผู้ตายจะถูกฆ่า มีพยานพบเห็นนายสถาพรแวะเข้ามาหาที่ห้องพักในตอนบ่าย และเย็นของวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ตะโกนเรียกผู้ตายให้เปิดห้องออกมาคุยกัน แต่ผู้ตายไม่เปิด
จากนั้นนายสถาพรเดินลัดเลาะไปทางด้านหลังของตึก เป็นระเบียงตั้งแต่ชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้นที่ 3 และมีพยานได้ยินเสียงตบตีกัน พยานที่พบเห็นคิดว่าเป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันธรรมดา ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำจึงไม่เข้าไปห้าม ต่อมาตำรวจนำตัวนายสถาพรมาสอบปากคำ เพียง 1 ชั่วโมงนายสถาพรให้การรับสารภาพว่า พบกับน.ส.วัชรีที่ห้องพักและมีปากเสียงกัน เนื่องจากโมโหที่ไปแจ้งความดำเนินคดีถึง 2-3 ครั้ง จึงลงมือตบตีผู้ตาย ก่อนจะใช้มือบีบคอจนแน่นิ่งไป แล้วขโมยสร้อยคอทองคำและโทรศัพท์มือถือ จากนั้นใช้กุญแจล็อกประตูห้องพักด้านนอกไว้ กลับไปบ้านพัก ส่วนร่องรอยคราบอสุจินั้น นายสถาพรอ้างว่าร่วมหลับนอนกับผู้ตายด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ข่มขืน ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกันและลงมือฆ่า
จากนั้นตำรวจควบคุมตัวนายสถาพรไปทำแผนฯ ประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
โดยมีกำลังตำรวจกว่า 20 นายคุ้มกันอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันญาติพี่น้องและเพื่อนของผู้ตายที่มามุงดูกว่า 100 คนรุมทำร้าย ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายตะโกนด่าทอและพยายามจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่กันไว้ได้ กระทั่งทำแผนฯเสร็จจึงคุมตัวไปยังสภ.เมืองอุตรดิตถ์เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป