จับมหาเศรษฐีอียิปต์จ้างฆ่านักร้อง

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 2 ก.ย. ตำรวจอียิปต์จับกุมนายฮิชัม ทาลัต มุสตาฟา มหาเศรษฐีชาวอียิปต์

ในข้อหาจ้างวานฆ่าน.ส.ซูซาน ทามิม นักร้องสาวคนดังชาวเลบานอนอย่างโหดเหี้ยม ด้วยเงิน 2 ล้านดอลลาร์ หรือ 68 ล้านบาท เป็นข่าวใหญ่ในแดนอาหรับเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเมื่อมีผู้พบศพนักร้องหญิงใน อพาร์ตเมนต์ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สภาพศพถูกแทงหลายแผล ทำลายโฉม และถูกเชือดคอ โดยกลุ่มตำรวจนอกราชการที่นายมุสตาฟาจ้างวาน

ทามิม วัย 30 ปี เริ่มมีชื่อเสียงจากการชนะเลิศการแข่งขันประกวดการแสดงในรายการยอดนิยม สตูดิโอ อัล แฟน เมื่อปี 2539

จากนั้นจึงได้ออกอัลบั้มของตนเอง 2 ชุด แต่ในระยะหลังหายหน้าไปจากสาธารณชน เพราะมีปัญหาชีวิตส่วนตัว รวมถึงการฟ้องร้องกับอาเดล มาทูก สามีคนที่ 2 ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์คนดังกล่าวหานักร้องสาวอยู่เบื้องหลังแผนพยายามลอบฆ่าตนในปี 2547 โดยฟ้องทั้งศาลในประเทศเลบานอนและในอียิปต์

สำหรับมหาเศรษฐีมุสตาฟาคบหากับทามิมอยู่นาน 3 ปีก่อนแยกทางกันเมื่อหลายเดือนก่อน

นักร้องสาวจึงย้ายจากอียิปต์ไปอยู่กรุงลอนดอนในอังกฤษพักหนึ่ง จากนั้นจึงย้ายมาอยู่เมืองดูไบ กระแสข่าวว่า ทีมสอบสวนอียิปต์เริ่มสงสัยนายมุสตาฟาเริ่มระแคะระคายในเดือนสิงหาคม เมื่อหนังสือพิมพ์อัลดัสตูร์ รายงานว่า คนร้ายที่ลงมือฆ่าชื่อซักคารี เป็นตำรวจนอกราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนของโรงแรมให้การรับสารภาพและซัดทอดนายมุสตาฟาเป็นผู้จ้างวานฆ่า

บรรณาธิการหนังสือพิมพ์อัลบาดิลเขียนว่า การตัดสินใจฟ้องนายมุสตาฟาของฝ่ายกระบวนการยุติธรรมช่วยยุติข่าวลือถึงอิทธิพลและความสัมพันธ์ของมุสตาฟากับทางการได้เป็นอย่างดี
 
ทั้งสร้างความน่าเชื่อถือให้ระบบยุติธรรมที่มักถูกปรามาส อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาไปถึงตอนจบของคดีนี้ หากนายมุสตาฟาพ้นข้อหาเมื่อใด อาจทำลายชื่อเสียงของกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่งยวด ด้านบริษัททาลัต มุสตาฟา กรุ๊ป ผู้ดำเนินกิจการก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว แต่งตั้งพี่ชายของนายมุสตาฟาขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน หลังจากหุ้นบริษัทร่วงกราว เนื่องจากคดีดังกล่าว