มะกันหนีทั้งเมือง-ผวาสตอร์มเซิร์จ

เมื่อ 1 ก.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมืองนิวออร์ลีนส์ ในรัฐหลุยเซียน่า กลายเป็นเมืองร้างในพริบตา

หลังชาวบ้านในรัฐเกือบร้อยละ 95 ของทั้งหมด 2 ล้านคน ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ อพยพหนีพายุเฮอริเคนกุสตาฟที่คร่าชีวิตผู้คนเส้นทางที่เคลื่อนผ่านในแถบแคริบเบียนมาแล้ว 81 ราย นายบ๊อบบี้ จินดอล ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียน่า กล่าวว่า ยังมีประชาชนเหลืออยู่ในเมืองนิวออร์ลีนส์ที่เคยประสบภัยพิบัติครั้งร้ายแรงจากพายุเฮอริเคนแคทรีนาเมื่อปี 2548 ราว 10,000 คน แต่อพยพออกไปแล้วกว่า 200,000 คน ซึ่งเขื่อนกั้นน้ำในเมืองนิวออร์ลีนส์เกือบจะไม่สามารถรองรับน้ำได้หากพายุพัดเข้ามา

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา รายงานว่า เฮอริเคนกุสตาฟอยู่ห่างจากเมืองนิวออร์ลีนส์ราว 418 กิโลเมตร

ช่วง 2 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่น เคลื่อนที่ด้วยความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความรุนแรงระดับ 3 หน่วยฟีม่า หน่วยป้องกันภัยพิบัติของสหรัฐ คาดการณ์ว่า มีโรงพยาบาล 180 แห่งอยู่ในเส้นทางพาดผ่านของพายุ และกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่ามีแนวโน้มจะเกิดสตอร์มเซิร์จ หรือคลื่นพายุหมุนในอ่าวเม็กซิโก สูง 3-4 เมตร ใกล้กับบริเวณศูนย์กลางพายุ

ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐ ซึ่งเตรียมตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเฮอริเคนกุสตาฟที่รัฐเท็กซัส กล่าวว่า เฮอริเคนกุสตาฟเป็นพายุที่อันตรายมาก มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดน้ำท่วม ชาวเมืองจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่