รวบผัวเมียชอร์ตเหยื่อ-ปล้นจยย.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ส.ค. พ.ต.อ.ไพโรจน์ แก้ววัน ผกก.สภ.เมือง พิษณุโลก พร้อมด้วยร.ต.ท.รักถิ่น บำรุงศรี พนักงานสอบสวน

นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนายไชยยันตร์ จันทร์ตรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/2 หมู่ 2 ต.สมอแข อ.เมือง พิษณุโลก และน.ส.ผาสุข หินดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 7 ต.วัดพริก อ.เมือง พิษณุโลก ทั้งคู่เป็นผัวเมียกัน ไปทำแผนฯ ประกอบคำรับสารภาพ ในคดีร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง และเครื่องชอร์ตไฟฟ้า โดยนำตัวไปทำแผนฯ ที่บริเวณทางเข้าสถานีรถขนส่งผู้โดยสาร หน้าร้านชุมพลอิเล็กทรอนิกส์ ถนนพิชัยสงคราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.วันเพ็ญ ทองดรอ่ำ อายุ 19 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 8 ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่ปากทางเข้าสถานีขนส่งรถโดยสาร ก่อนเข้าไปใช้โทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะ ระหว่างนั้นมีคนร้าย 2 คน ผู้ชายกับผู้หญิงเข้ามาประกบ และคนร้ายผู้หญิงใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าจี้ชอร์ตที่ต้นคอ จนชาไปทั้งตัวไม่สามารถดิ้นรนต่อสู้ได้ ก่อนคนร้ายทั้ง 2 ดึงตัวออกมาจากตู้โทรศัพท์ รุมทำร้ายร่างกาย และใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าจี้อีกจนฟุบกองกับพื้น ก่อนจะขโมยโทรศัพท์มือถือและรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมาตำรวจกระจายกำลังออกติดตามคนร้าย จนกระทั่งพบว่าหลบหนีเข้าไปในซอยข้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชัยฤทธิ์คาร์เซ็นเตอร์ ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง จึงเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง และนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน

ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย โดยใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้า และรุมทุบตี จากนั้นขโมยรถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือไป เพื่อจะเอาไปขายในบ่อนการพนันในย่านคุ้มชาละวัน อ.เมือง จ.พิษณุโลก แต่ถูกตำรวจตามจับกุมตัว ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์มาแล้ว 3 ครั้ง นำไปขายเอาเงินไปเที่ยวตามสถานบันเทิง ส่วนครั้งล่าสุดที่ใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าก่อเหตุนั้น เพราะได้มาจากเพื่อนอีกทอดหนึ่ง

จากการสอบสวนนายไผ่ทอง ผิววันดี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/1 หมู่ 2 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก รปภ.ร้านชุมพลอิเล็กทรอนิกส์ให้การว่า

ขณะเกิดเหตุเห็นผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว เมื่อเห็นรุมทำร้ายร่างกายผู้หญิง จึงวิ่งจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่คนร้ายทั้ง 2 ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกาย และทราบว่าถูกชิงทรัพย์ แล้วแจ้งตำรวจทราบ