เดลินิวส์
เหตุวัวคลั่งขวิดเจ้าของจนเสียชีวิตรายนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. พ.ต.ท.ตุลวุฒิ วิมาลา สารวัตรเวร สภ.อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งจากทาง รพ.วังทองว่า มีคนถูกวัวขวิดได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ามารักษาตัว และเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ. พบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายสุวิชัย นาคสวัสดิ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 2 บ้านวังตาโปร่ง ต.วังทอง อ.วังทอง สภาพศพมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เนื่องจากถูกกระแทกอย่างรุนแรงด้วยของแข็ง ทำให้สมองบวมและมีเลือดคั่งในสมอง จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า นายสุวิชัยมีอาชีพเลี้ยงวัวพันธุ์ฮินดูบรามัน ก่อนเกิดเหตุนายสุวิชัยได้นำฝูงวัวไปเลี้ยงบริเวณหลังหมู่บ้านวังตาโปร่ง โดยปล่อยให้ฝูงวัวหากินหญ้าตามธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด หลังจากนั้นขณะที่ผู้ตายกำลังจูงวัวหนุ่มเพศผู้ อายุประมาณ 3 ปี ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์ประจำคอก เพื่อจะนำไปผูกไว้ใต้ต้นตะเคียนขนาดใหญ่เพื่อหลบร้อน ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
เมื่อจู่ๆ วัวตัวดังกล่าวก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งโดยไม่ทราบสาเหตุสะบัดจนเชือกหลุดจากมือนายสุวิชัย ทำให้นายสุวิชัยเสียหลักล้มลงกองกับพื้น จากนั้นขณะที่นายสุวิชัยจะลุกขึ้นวิ่งหนี วัวพ่อพันธุ์ตัวเดิมได้ใช้เขาอันแหลมคมพุ่งเข้าขวิดนายสุวิชัยเข้าที่ศีรษะอย่างจัง จนร่างของนายสุวิชัยลอยกระเด็นศีรษะฟาดกับพื้นอย่างแรงจนนอนสลบแน่นิ่งไป ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงได้ช่วยกันไล่จับวัวคลั่งมัดไว้กับต้นไม้ได้อย่างทุลักทุเล ก่อนนำร่างของนายสุวิชัยส่ง รพ.แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับสาเหตุที่วัวพ่อพันธุ์เกิดคลุ้มคลั่งไล่ทำร้ายเจ้าของจนเสียชีวิตครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะมาจากอากาศที่ร้านอบอ้าว ทำให้วัวเกิดอารมณ์หงุดหงิดจนไล่ขวิดเจ้าของเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุพากันวิพากษ์วิจารณ์กันว่า อาจจะเกิดจากอาถรรพ์ของต้นตะเคียนขนาดใหญ่อายุกว่าร้อยปีที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะปกติชาวบ้านจะไม่กล้านำสัตว์เลี้ยงเข้าไปใกล้ เนื่องจากที่ผ่านมามีอยู่หลายครั้งที่ชาวบ้านนำฝูงสัตว์ไปเลี้ยง แล้วสัตว์เกิดมาอาการแตกตื่นหรือคลุ้มคลั่งขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าขึ้นกับนายสุวิชัยดังกล่าว.