ระวัง!วายร้ายในคราบนักบุญตั้งมูลนิธิสวมรอยรีดเงินบริจาค

ท่ามกลางน้ำใจที่หลั่งไหลสู่ "เหยื่ออุทกภัย" ภาคเหนือ กลับปรากฏพฤติกรรมร้ายๆ จาก "มิจฉาชีพ" กลุ่มหนึ่งที่อาศัยช่องโหว่ในการ "บริจาค" ทั้งเงินและสิ่งของ ด้วยการแอบอ้างตัว และตั้ง "มูลนิธิเถื่อน" ออกเรี่ยไรเงินบริจาค ก่อน "ฮุบ" เข้ากระเป๋าตัวเอง.....

"มูลนิธิต่างๆ เป็นห่วงมาก เพราะมีกลุ่มนายทุนถือโอกาสแอบอ้างตัวเป็นมูลนิธิออกเรี่ยไรเงิน ด้วยการสวมรอยเป็นหน่วยกู้ภัยออกตระเวนถ่ายภาพเหตุอุทกภัย แล้วแอบอ้างเป็นมูลนิธิ เดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านที่ต้องการบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทำให้มูลนิธิที่ตั้งใจทำงานช่วยเหลือสังคมจริงๆ เสียชื่อเสียง" พรชัย จิรกวีกุล หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ จ.ขอนแก่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ "วายร้าย" ในคราบ "หน่วยกู้ภัย" กลุ่มหนึ่ง "พรชัย" กล่าวอีกว่า ทุกจังหวัดจะมีหน่วยกู้ภัยควรช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่างๆ แต่สำนักงานมูลนิธิจะไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ออกเดินทางไปเรี่ยไรเงินรับบริจาค ส่วนหน่วยกู้ภัยที่ออกมาเรี่ยไรเงินบริจาคตามหมู่บ้าน และหน่วยราชการในจังหวัดต่างๆ จะเป็น "กลุ่มนายทุน" ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาจาก กทม.และเขตปริมณฑล ออกตระเวนเรี่ยไรเงิน โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ถ้าใครพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจในพื้นที่จับกุมได้ในข้อหาหลอกลวง ต้มตุ๋น

"พรชัย"กล่าวด้วยว่า สำหรับพฤติกรรมของ "วายร้ายในคราบนักบุญ" เหล่านี้ จะมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นกลุ่มนายทุนที่ร่วมกันตั้งคณะทำงานขึ้นมา แล้วไปขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ จากนั้นก็จะจ้างลูกมือประมาณ 4-5 คน ใช้ชื่อมูลนิธิ และเอกสารการก่อตั้งที่ได้รับอนุญาตการเปิดมูลนิธิเป็น "ใบเบิกทาง" ออกไปหากินเรี่ยไร่เงินตามจังหวัดต่างๆ โดยเงินบริจาคที่ได้มาจากประชาชนจะนำไปช่วยเหลือบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง

"นอกจากนี้ ยังมีนายทุนบางกลุ่มที่ไม่ได้ขออนุญาตเปิดมูลนิธิ แต่รู้จักคุ้นเคยกับกลุ่มคนที่ทำงานเป็นคณะกรรมการในมูลนิธิใดมูลนิธิหนึ่ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นมูลนิธิที่เปิดใหม่ และไม่มีผู้บริจาคเงิน โดยนายทุนกลุ่มนี้จะเข้าไปช่วยวางแผน แล้วขอใช้ชื่อมูลนิธิ และเอกสารต่างๆ ของมูลนิธินั้นๆ ออกไปเรี่ยไรเงิน แล้วนำผลประโยชน์มาแบ่งกัน คือ ถ้ามีเงินบริจาค 100 บาท จะเข้ามูลนิธิจริงๆแค่ 40 บาท ส่วนกลุ่มนายทุนรับไปเต็มๆ 60 บาท ซึ่งแต่ละวันสามารถหาเงินได้ตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท" พรชัย กล่าว

ด้านนางเพียง กรมน้อย อายุ 75 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่ชอบทำบุญ และเคยถูกหลอกเสียเงินเป็นหมื่นบาท โดยมีมูลนิธิแห่งหนึ่งอ้างว่ามาจาก กทม. มาขอบริจาคเงินไปช่วย "เหยื่อสึนามิ" โดยนำรูปถ่ายเหตุการณ์สึนามิมาให้ดูด้วย ครั้งแรกขอบริจาคเงินไป 3,000 บาท และให้พระพุทธรูปมาหนึ่งองค์ จากนั้นคนกลุ่มเดิมก็เข้ามาขอบริจาคอีกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งหลังนี้ขอไป 7,000 บาท ตนเห็นว่ามันแปลกๆ จึงปรึกษากับลูกสาว แล้วไปเข้าแจ้งความตำรวจ ซึ่งได้พยายามติดตามคนกลุ่มนี้ตามเอกสารขออนุญาตตั้งมูลนิธิ แต่ตามไม่เจอ

ขณะที่ "เอก" อายุ 27 ปี อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิแห่งหนึ่งกล่าวว่า ตนเคยอยู่กับมูลนิธิเหล่านี้โดยพฤติกรรมคนเหล่านี้ คือ จะเป็นกลุ่มนายทุนที่ไม่ใช่มูลนิธิโดยตรง แต่มาลงทุนซื้อรถยนต์และจ้างลูกมือ 4-5 คน ถ้าต้องการเงินมากรับบริจาคมากก็จะจ้างลูกมือหลายคน เพื่อช่วยกันออกมา "หลอก" เรี่ยไรเงินชาวบ้าน โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ซึ่งนายทุนกลุ่มนี้กับคณะกรรมการมูลนิธิตัวจริงจะตกลงกันก่อนว่าแต่ละเดือนต้องจัดสรรผลประโยชน์แบ่งกันเท่าไร "เอก" กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนพบเห็นกลุ่มคนเหล่านี้มาขอเรี่ยไรเงินบริจาคให้ตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตรับเงินบริจาคก่อนว่าถูกต้อง เป็นของจริงหรือไม่ เพราะการจะออกมาเรี่ยไรเงินบริจาคได้ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตำรวจในท้องที่นั้นๆ ก่อน จึงจะสามารถออกมาเรี่ยไรเงินได้

"เท่าที่ทราบมาไม่มีเคยมีเจ้าหน้าคนใดอนุญาตให้ออกเรี่ยไรเงิน เพราะเมื่ออนุญาตไปแล้วกลุ่มคนเหล่านี้จะนำใบอนุญาตไปแอบอ้างในทางที่ไม่ถูกต้อง และส่วนมากใบอนุญาตที่เห็นๆ กันจะเป็นของปลอม ทำขึ้นมาเอง จึงอยากจะเตือนประชาชนให้ระวัง ถ้าเห็นคนของมูลนิธิออกมาเรี่ยไรเงินสามารถแจ้งตำรววจจับได้ทันที" อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ผู้นี้ กล่าว

ด้าน "พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย" รอง.ผกก.(ป) สภ.อ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ทางตำรวจได้มีการออกตรวจตามพื้นที่ได้รับผิดชอบตลอด และมีประชาชนร้องเรียนว่ามีกลุ่มมูลนิธิเดินเรี่ยไรเงินตลอด เมื่อตำรวจออกไปตรวจกลุ่มมูลนิธิจะไม่สามารถแสดงใบอนุญาตการออกเรี่ยไรเงินรับบริจาค และสามารถจับกุมได้หลายราย ตามกฎหมายบทลงโทษของการเรี่ยไรเงินเป็นคดีลหุโทษ มีโทษปรับไม่เกิด 1,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการประกันตัวออกไป และออกมาเรี่ยไรเงินอีกเหมือนเดิม และถ้ามูลนิธิ หรือวัดต่างๆ จะออกเดินขอเงินทำบุญ หรือเรี่ยไรเงิน ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่เท่านั้น โดยจะมีการออกหนังสือรับรองที่ถูกต้องให้ แต่ระยะหลังมีมูลนิธิที่ออกมาเรี่ยไรเงินโดยไม่มีการขออนุญาต รวมถึงใช้ใบอนุญาตปลอมเป็นจำนวนมาก จึงอยากเตือนประชาชนให้ตรวจเอกสารของกลุ่มที่เข้ามาเรี่ยไรเงินอย่างละเอียด

แต่อย่างไรก็ดี กลุ่มวายร้ายในคราบนักบุญ ยังคงออกเดินสายเรี่ยไรเงินตามจังหวัดต่างๆ อยู่เพียงแค่ต้องการหาเงินบริจาคของผู้ใจบุญ โดยเป็นความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน และคิดถึงบาปบุญคุณโทษ ว่าใครจะได้รับผลกระทบเดือนร้อนบ้าง หากประชาชนต้องการให้กลุ่มเหล่านี้หมดจากสังคม หรือไม่ต้องการถูกหลอก ควรระวัง หรือแจ้งตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบจับกุมทันที