เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ร.ต.ท.นิสัย อั้นทอง พนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าพบช้างป่าถูกไฟช็อตบริเวณสวนสัก
หมู่ 8 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชวลิต สุขสุวรรณ์ สวญ.สภ. ลาดหญ้า พ.ต.ต.บุญส่ง พิพัฒน์ทวีกุล สว.สป. นายเอกสิทธิ์ วิริยาลัย นายก อบต.วังด้ง นายฉัตรชัย สรรพกิจ ปศุสัตว์ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ทีมสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ร่วมไปตรวจสอบ
พบช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 15 ปี น้ำหนักราว 1,800 กก. นอนตะแคงใกล้กับลวดที่ขึงเดินกระแสไฟด้วยแบตเตอรี่รถยนต์ที่เจ้าของทำขึ้นเพื่อป้องกันช้างป่าบุกรุกเข้ามากัดกินพืชไร่
สภาพงวงพันอยู่กับเส้นลวด ลักษณะท้องช้างโตเหมือนตั้งท้อง เบื้องต้นพบว่าช้างป่าเคราะห์ร้ายตัวดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าสลักพระคาดว่าก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดช้างน่าจะออกหาอาหาร กระทั่งเดินไปพบเส้นลวดที่เจ้าของปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้เพื่อป้องกันช้างป่าเข้าไปหาพืชไร่กิน ด้วยสัญชาตญาณช้างเลยใช้งวงดึงเส้นลวดออก ทำให้ถูกไฟช็อตตายดังกล่าว
ด้านนายฉัตรชัย สรรพกิจ ปศุสัตว์อำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ผ่าพิสูจน์ซากช้างปรากฏว่าไม่พบว่าช้างตั้งท้องแต่อย่างใด
สาเหตุที่ช้างท้องโตอาจเกิดจากมีแก๊สในท้องมาก ส่วนสาเหตุที่ช้างตายเพราะถูกไฟช็อต นอกจากนี้ จากการผ่าพิสูจน์ไม่พบสารพิษอื่นๆ หรือจุดบกพร่องใดที่ระบุว่าช้างกินอาหารเป็นพิษเข้าไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีช้างป่าสีดอ เพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี น้ำหนักประมาณ 1,500 กก. นอนตายอยู่ในไร่ส้มโอของชาวบ้านหมู่ 2 บ้านท่ามะนาว ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี จากการตรวจสอบบริเวณใต้งวงพบรอยไหม้ เบื้องต้นคาดว่าช้างน่าจะถูกไฟช็อตเช่นเดียวกัน กระทั่งเกิดเหตุช้างป่าถูกไฟช็อตตายอีกตัว