เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ส.ค. พ.ต.ท.ชนัญ ทองตัน สารวัตรเวร สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีคนถูกฆ่าที่บ้านเลขที่ 148 บ้านวังขี้เหล็ก หมู่ 10 ต.ท่าช้าง
หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยูร คำสุข รอง ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผกก. พ.ต.ท.วุฒิพัฒน์ เปรมปรี สว.สป. พ.ต.ท.หญิง กฤษฎี พงษ์อัมพรขจี สารวัตรงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก และแพทย์เวรโรงพยาบาลพรหมพิราม บ้านดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียวอยู่ระหว่างก่อสร้าง อยู่ห่างจากถนนเลียบคลองชลประทาน 50 เมตร บนโต๊ะหินอ่อนในบ้านมีกับข้าววางอยู่ ใต้โต๊ะมีเลือดกองใหญ่ และมีรอยเลือดเป็นทางยาวออกจากบ้านไป พบผู้เสียชีวิต อยู่ในพงหญ้าทราบชื่อว่านายณรงค์ สุดสวัสดิ์ อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีฟ้า
ที่ศีรษะถูกฟันด้วยของมีคมจนกะโหลกแบะมันสมองไหลออกมาและมีแผลถูกฟันที่แขนขวาอีก 1 แผล เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
ตรวจบริเวณโดยรอบพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า โนวา สีดำ ทะเบียน ท 2694 พิษณุโลก ของผู้ตายจอดอยู่หน้าบ้านและมีรอยเท้าคนร้ายเดินย่ำเข้าไปในบ้านรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย ญาติแจ้งว่าทรัพย์สินที่หายมีปืน .32 ออโตเมติก 1 กระบอก และพระเครื่องจำนวนหนึ่ง นายถนอม เพ็งทอง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ผู้พบศพคนแรกให้การว่า เป็นเพื่อนกับนายณรงค์ ทุกเช้าตนจะแวะมาหาพูดคุยกัน เมื่อมาถึงเห็นรอยเลือดที่โต๊ะหน้าบ้านจึงเดินตามรอยไปและพบศพนายณรงค์จึงแจ้งความ
ส่วนนางนิภาพัน โลหะนาคบุตร อายุ 54 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 148 ถนนไชยานุภาพ อ.เมืองพิษณุโลก น้องสาวของนายณรงค์ให้การว่า พี่ชายเคยเป็นนักมวยไทยใช้ชื่อว่า “เห่าไฟ เจริญเมือง”
ตระเวนต่อยมวยในหลายจังหวัดและที่เวทีลุมพินีกับราชดำเนินกรุงเทพมหานครจนได้แชมป์ หลังเลิกต่อยมวยเข้ารับราชการที่สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) ก่อนจะลาออกไปทำงานต่างประเทศหลายปี นางนิภาพันให้การต่อไปว่า ครั้งหลังสุดไปอยู่ ประเทศอังกฤษเป็นครูสอนมวยไทยอยู่ 10 กว่าปี จนหน่วยงานท้องถิ่นมอบโล่ให้ จากนั้นกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อดูแลที่ดิน 7 ไร่ ที่แม่ยกมรดกให้พร้อมกับสร้างบ้าน แต่ยังไม่เสร็จ ปกตินายณรงค์เป็นคนสันโดษอยู่บ้านเพียงลำพัง พี่น้องจะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่ามีปัญหากับใคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนจนพบผู้ต้องสงสัยคือนายเอกชัย ศรีอำดี อายุ 27 ปี ช่างซ่อมรถเกี่ยวข้าว สารภาพว่าเป็นคนฆ่านายณรงค์
โดยรู้จักกันดีเพราะมีห้องพักอยู่ใกล้กัน ช่วงหัวค่ำวันที่ 21 ส.ค.นายณรงค์มาหาแต่ตนไม่อยู่ เมื่อกลับมาถึงเพื่อนบอกว่านายณรงค์แวะมาหาจึงตามไปที่บ้าน นายณรงค์จึงชวนคุยเรื่องการเมือง นายเอกชัยให้การต่อไปว่า ตนไม่รู้เรื่องเลยถูกด่าว่าไม่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง ด้วยความโมโหจึงคว้ามีดฟันศีรษะนายณรงค์จนตายคามือแล้วลากศพไปทิ้งพงหญ้าและเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินในห้องเพื่ออำพรางคดีว่าเป็นเหตุชิงทรัพย์