เมื่อวันที่ 21 ส.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสาร รุ่นเอ็มดี-82 เที่ยวบินเจเค 5022 สายการบินสแปนแอร์ ดิ่งคาสนามบินในกรุงมาดริด ประเทศสเปน
ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 153 ศพ หลังจากหลายสิบรายบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด นอกจากนั้น ผู้เสียชีวิตหลายรายเป็นเด็ก ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองกำลังพาไปเที่ยวเกาะคานารี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ขณะที่ผู้รอดชีวิตมีเพียง 20 คน ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นทารก และอีก 3 คนเป็นเด็ก อายุ 6 ขวบ 8 ขวบ และ 11 ขวบ รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์
นางแม็กดาลีนา อัลวาเรซ รมว.การขนส่ง แถลงว่า เครื่องลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 164 คน ลูกเรือ 9 คน รวม 173 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 ราย
นับเป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุดของสนามบินบาราญาสในรอบ 25 ปี ทางรัฐบาลสเปนสั่งไว้ทุกข์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน จากการสอบสวนเบื้องต้น เครื่องยนต์ซ้ายระเบิดขณะเครื่องทะยานขึ้นจากรันเวย์ ท่าอากาศยานบาราญาส กรุงมาดริด ประเทศสเปน ทำให้เครื่องดิ่งลงกระแทกพื้นจนแหลกเป็นชิ้น ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนรายงานว่า นายอันโตนิโอ ลูน่า กัปตันที่มีประสบการณ์การบินสูง พบว่าเครื่องยนต์มีปัญหาแต่แรกนั้น ทางสายการบินสแปนแอร์ชี้แจงว่า ก่อนนำเครื่องขึ้นบินกัปตันกลับมารายงานว่ามีปัญหาที่ระบบทำความร้อนตรงปล่องท่อไอเสีย ฝ่ายซ่อมบำรุงจึงเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขเสร็จสิ้น เป็นไปตามขั้นตอนต่างๆ และไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติในขั้นตอนนี้
สำหรับหนูน้อยที่รอดชีวิตนั้น เดิมสื่อมวลชนสเปนรายงานว่า มีทารก 2 รายรอดตาย แต่ต่อมาแก้ไขว่า พบศพทารก 1 รายแล้ว
ขณะที่เด็กชายวัย 6 ขวบบาดเจ็บที่ศีรษะ และเด็กผู้ชายวัย 8 ขวบกับเด็กหญิงวัย 11 ขวบต่างขาหัก เด็กทั้งสองเพียรขอร้องเจ้าหน้าที่สนามบินตามหาพ่อแม่ให้ เป็นที่น่าสะเทือนใจ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรายหนึ่งกล่าวว่า สภาพจุดเกิดเหตุน่าสลดใจมาก ทุกอย่างไหม้ไปหมด ศพเด็กถูกไฟคลอกจนเกรียม ตนเห็นพนักงานต้อนรับและกัปตันด้วย แต่ไม่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือหรือเสียงร้องไห้แต่อย่างใด