อุ้มฆ่าโหดชิปปิ้ง ฆาตกรสะกดรอย ตามจากม.เกษตรพุ่ง ปมงัดแย่งงาน

คดีฆาตกรรมอำมหิตคนร้ายอุ้มฆ่าชิปปิ้งรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 21 ส.ค.

ร.ต.ท.เทอด หาญณรงค์ ร้อยเวร สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีผู้พบศพในคลองระพีพัฒน์ (คลองแอน) หมู่ 1 ต.บึงชำอ้อ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง พบศพชายลักษณะนอนหงายขึ้นอืด สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายทางสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีครีม คาดเข็มขัดหนังสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ ทราบขนาดเข้าบริเวณท้ายทอยทะลุหน้าผาก 1 นัด ข้อมือขวาสวมนาฬิกายี่ห้อไซโก้ นิ้วนางซ้ายสวมแหวนทองคำลงยาสลักตัวอักษรคำว่า “ฤกษ์บางพลัด” ส่วนที่คอสวมสร้อยกะลาหุ้มทองคำ ห้อยพระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชม. ค้นในตัวไม่พบหลักฐานว่าเป็นใคร มอบศพให้หน่วยกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
 

ต่อมามีนางฐิติมา ฤกษ์บางพลัด อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ซอยวัฒนะพฤกนิเวศน์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางขุนนนท์ กทม. เข้าพบตำรวจขอดูศพรวมทั้งพยานหลักฐาน

โดยยืนยันว่าศพที่พบเป็นศพสามีชื่อนายมารุต ฤกษ์บางพลัด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเดียวกัน ทำงานเป็นชิปปิ้งของบริษัทนิยมบริการ จำกัด ย่านคลองเตย กทม. ประกอบธุรกิจการนำเข้าส่งออกสินค้า พร้อมกับให้ราย ละเอียดว่า เมื่อตอนสายวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา นายมารุต ไปรับสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ นำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จากนั้นในช่วงเย็นขับรถปิกอัพนิสสัน นาวาราสีดำ ทะเบียน ชฟ 3082 กรุงเทพมหานคร เลยไปรับลูกสาวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ซึ่งเป็นปกติทุกวัน โดยระหว่างขับรถนายมารุตโทรศัพท์มาพูดคุยเป็นระยะๆ 

นางฐิติมาให้การอีกว่า กระทั่งถึงเวลา 16.00 น. ลูกสาวโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบว่านายมารุตยังไม่ไปรับโทรศัพท์เข้าไปหาหลายครั้ง

ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณตอบรับ รอจนกระทั่งถึงเวลา 17.00 น. ก็ยังติดต่อไม่ได้ ประสานให้ญาติไปรับลูกสาวแทน สอบถามไปยังญาติพี่น้องรวมทั้งคนรู้จักไม่มีใครพบเห็น เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับสามีจึงเข้าแจ้งความตำรวจ สน.บางเขน ช่วงเย็นของวันที่ 20 ส.ค. พร้อมกันนี้ได้ประสานกับทางมหาวิทยาลัยขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถของนายมารุตวิ่งเข้าไปในมหาวิทยาลัยทางประตูติดกับถนนวิภาวดีรังสิต (ประตูวิภา 2) เมื่อเวลา 15.02 น. และขับออกจากมหาวิทยาลัยทางประตูเดียวกันในเวลา 15.43 น.วันเดียวกัน แต่มองไม่เห็นคนในรถ เนื่องจากติดฟิล์มทึบ จากนั้นไม่มีข่าวคราวอีกเลย กระทั่งตำรวจประสานให้ไปดูศพ ส่วนสาเหตุไม่ทราบ เพราะสามีไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องหน้าที่การงาน เพราะเรื่องการพนันและเจ้าชู้สามีไม่มีแน่นอน
 

คำให้การรวมทั้งพยานแวดล้อมตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คนทราบความเคลื่อนไหวของนายมารุตเป็นอย่างดีว่าทุกเย็นจะต้องขับรถไปรับลูกสาวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

วางแผนไปดักรอสบโอกาสใช้ปืนจี้บังคับพาตัวไปในที่เกิดเหตุเพื่อตกลงปัญหาบางอย่าง เมื่อตกลงกันไม่ได้ คนร้ายลงมือสังหารโดยใช้ปืนยิงท้ายทอยแล้วนำศพโยนทิ้งลงในคลองอำพรางคดี ก่อนจะชิงเอารถยนต์ หลบหนี ส่วนปมสังหารตำรวจยังคงให้น้ำหนักไปที่เรื่องขัดแย้งผลประโยชน์เกี่ยวกับธุรกิจการนำเข้าส่งออกสินค้าโดยล่าสุดทราบว่านายมารุตมีโปรเจกต์นำเข้าถังแก๊ส เอ็นจีวีลอตใหญ่ อาจไปขัดแย้งกับเพื่อนร่วมอาชีพคนใดคนหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจพาพวกอุ้มฆ่าดังกล่าว แต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นชิงทรัพย์ โดยทราบว่านายมารุตจะพกเงินคราวละนับแสนบาท แต่หลังเกิดเหตุเงินในกระเป๋ายังหายไปด้วย