เด็กแว้นโผล่มอบตัวอีก6หลังจากเมื่อวันก่อนมอบตัวคนเรกพร้อมใจกัน ปฏิเสธ อ้างด.ต.ตายเอง
ก่อนทนายใช้ที่ดิน 7 ล้านประกันทุกคนออกไป ด้านตร.ยังเชื่อในผลพิสูจน์ของแพทย์ ด.ต.ตายเพราะขาดอากาศหายใจ พอถูกรัดคอด้วยผ้าผืนใหญ่หรือท่อนแขนก็เกิดหัวใจวายกำเริบตาม ตร.แจ้งข้อหาหนักร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ถึงแก่ความตาย
จากกรณีด.ต.สัมฤทธิ์ แต้มทอง ผบ.หมู่งานจราจร สน.วิภาวดี เสียชีวิตขณะเข้าจับกุมแก๊งจักรยานยนต์ซิ่ง เหตุเกิดบนถนนวิภาวดีฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 7 คน ล่าสุดพ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสวัสดิ์ ผกก.สส.บก. น.2 พร้อมกำลัง นำหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2456/2551 ลงวันที่ 19 ส.ค.2551 เข้าจับกุมตัวนาย จิรวัฒน์ หรือตี๋ พุดบำรุง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/13 ม.2 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คนทางทนายความของผู้ต้องหานัดจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามอบตัวในวันที่ 20 ส.ค.เพื่อสู้คดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ส.ค. นายพิชัย เอี่ยมอ่อน ทนายความ พร้อมผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 6 คน ประกอบด้วย
นายวีรยุทธ หรือกอล์ฟ เสือโรจน์ อายุ 25 ปี นายโสรจ หรือต๋อง แก้วเอียด อายุ 21 ปี นายธนพงศ์ หรือเข้ เอี่ยมอ่อน อายุ 18 ปี นายธนวัฒน์ หรือเพชร มวลจุมพล อายุ 18 ปี นายอรรถพล หรือเป้ อ่อนสมจิตร อายุ 20 ปี และนายอนวัทย์ หรือตั๋ง ไพบูลย์พร อายุ 18 ปี เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 และพ.ต.อ. อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน ตามหมายจับ ซึ่งหลังจากที่ทั้งหมดเดินทางมาถึง ก็เข้าไปในห้องสอบสวน โดยทางพนักงานสอบสวนได้แยกกันสอบ สวน โดยนำตัวนายจิรวัฒน์ หรือตี๋ ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ออกมาสอบสวนเพิ่มเติมด้วย โดยทางผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธและยังยืนยันตาม คำให้การที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อตรวจประวัติอาชญากรรม จากนั้นทางทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ย่านโรงเรียนสตรีวิทย์ 2 จำนวน 1 แปลง มูลค่า 7 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนอนุมัติให้ประกันตัวโดยตั้งวงเงินประกันไว้รายละ 2 แสนบาท
มอบตัวอีก6 เด็กแว้นฆ่าดต.
ทางด้านพล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า หลังจากเมื่อคืนวันที่ 19 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 จับกุมนายจิรวัฒน์ หรือตี๋ หนึ่งในแก๊งซิ่งมาแล้ว
ล่าสุดในวันเดียวกันนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางเข้ามาพบเพื่อมอบตัว ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอด ข้อกล่าวหา และยืนยันตามคำให้การเดิม แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาร่วมกันกระทำความผิดจริง อีกทั้งศาลก็อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์และผลการชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชวิทยาระบุชัดเจนว่า ด.ต.สัมฤทธิ์เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ ประกอบกับผู้ตายเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วทำให้เสียชีวิตทันที และในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ในที่เกิดเหตุใกล้กับผู้ตายมากที่สุดไม่มีผู้อื่นเข้ามาอยู่ด้วย อีกทั้งในขณะเกิดเหตุก็ได้รับแจ้งจากทางวิทยุว่าเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้าย
พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ก็จะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดเพิ่มเติม
ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษจำคุก 3-20 ปี โดยหลังจากนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อส่งไปตรวจสอบประวัติอาชญากร ที่กองทะเบียนประวัติฯ ส่วนเรื่องการประกันตัวก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่จะต้องให้เสร็จสิ้นขั้นตอนสอบสวนทั้งหมดก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้อง หา พบว่านายวีรยุทธ หรือกอล์ฟ ยังเคยถูกดำเนินคดีพกพาอาวุธปืน ในท้องที่ สน.โคกคราม
และน้องชายก็เคยถูกดำเนินคดีในข้อหายาเสพติดในท้องที่เดียวกันอีกด้วย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด นอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหามีความผิดเนื่องจากในการสอบสวนทั้งหมดก็ให้การว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง และจากผลชันสูตรของสถาบันนิติเวช พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากขาดอากาศหายใจ โดยแพทย์ลงความเห็นว่าผู้ตายอาจจะถูกรัดคอด้วยผ้าผืนใหญ่ หรือท่อนแขน ซึ่งเป็นเหตุให้อาการโรคหัวใจกำเริบขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน
ด้านนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.การพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจออกหมายจับเด็กแว้นที่ทำร้ายด.ต.สัมฤทธิ์จน เสียชีวิตว่า เป็นหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาเข้าสู่กระบวนการศาล หรือส่งเข้าสถานบำบัดฟื้นฟู
ส่วนในภาพรวมที่กระทรวงจะดำเนินการแก้ปัญหาเด็กแว้น เป็นกรณีที่มีการรวมตัวกันออกมาแข่งรถซิ่งจำนวนมาก 30-100 คัน ที่เคยเห็น จะนำไปเข้ากระบวนการดัด สันดาน โดยต้องคุยกับทั้งทหาร ตำรวจ กระทรวงศึกษาธิการ โดยจัดนักสังคมสงเคราะห์ไปสอบถามวิเคราะห์ปัญหา เด็กกลุ่มใหญ่แบบนี้ต้องเข้าระบบวิธีการ โดยประเมินว่าความผิดระดับนี้จะฝึกอบรมสภาพจิตหรือบำบัดอย่างไร ให้ทางทหารหรือตำรวจช่วยกำหนดรูปแบบในการดัดนิสัยเด็กน่าจะได้ผล