เตรียมกวาดล้างนายหน้านัน-แบงก์เถื่อน ระบาดทั่วหัวเมืองใหญ่

ผู้การ ปศท.เตรียมจับกุมนายหน้า"นัน-แบงก์"เถื่อนแถวหน้าห้างสรรพสินค้าดัง ในเมืองใหญ่ ประสานแบงก์ชาติ-กรมสรรพากรร่วมปราบปล่อยกู้นอกระบบ

พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ถึงปัญหาการแอบอ้างใช้บัตรของการให้สินเชื่อส่วนบุคคลจากผู้ประกอบการธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ นัน-แบงก์ที่บริษัทไม่มีส่วนรู้เห็น แต่มีบุคคลอื่นนำไปใช้ประกอบธุรกิจอำพรางในลักษณะเงินด่วน เงินกู้ต่างๆ แต่เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราสูงเกินกว่าเหตุ ที่ระบาดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความเป็นห่วงว่า การที่บริษัทเจ้าของบัตรยอมให้เครดิตแก่ผู้ถือบัตรเพื่อเป็นการให้ความสะดวก และซื้อสินค้า แต่กลับมีกลุ่มบุคคลนำไปปฏิบัติไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ มีการพลิกแพลงและเกิดการสมยอมกับร้านค้า เพื่อให้ได้เงินมา มีผลประโยชน์ร่วมกัน และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้บัตร จนทำให้เกิดภาระหนี้เสียกับเจ้าของบริษัทนั้น

พล.ต.ต.สุเทพกล่าวว่า วิธีทำผิดคือเจ้าของบัตรสมยอมและรู้เห็นกับร้านค้า ที่สำคัญคือพื้นฐานของคดีเป็นเพียงกฎหมายแพ่ง

ทำให้ยากต่อการจับกุมหรือดำเนินคดีผู้กระทำความผิด จึงอยากฝากไปยังบริษัทเจ้าของบัตรต้องกำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติของผู้ที่จะออกบัตรให้ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องดูว่ามีฐานะทางการเงินพอสมควร อาชีพมั่นคง ไม่มีประวัติการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือหนี้สิน แต่ไม่เข้าใจทำไมเจ้าหน้าที่ของบริษัทเหล่านี้จึงพยายามทำยอดให้สูงโดยไม่คำนึงถึงผลเสีย

พล.ต.ต.สุเทพกล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำข้อมูล ประวัติร้านค้าที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องและสมยอมกับลูกค้า โดยให้จับตาเฝ้าระวังเพื่อให้รู้ตัวว่าถูกเฝ้าดู

เพื่อจะได้มีความเกรงกลัวและไม่กล้าลงมืออีก พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศึกษาหาความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อรับรู้วิธีการเอาผิด เช่น การอบรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ ธปท.เพื่อศึกษาความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง "ผมสั่งตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาพิเศษ โดยจะมอบหมายให้ พ.ต.อ.ปิยะบุตร อัจฉริยมงคล ผกก.สภ.ช้างเผือก เป็นหัวหน้า เพราะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องกฎหมายและผ่านงานในคดีฉ้อโกงลักษณะแชร์ข้าวสารมาแล้ว โดยให้ดึงพนักงานสอบสวนที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นคณะทำงานเพื่อความเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะสำหรับลงทำงานอย่างเต็มที่ เพราะคดีดังกล่าวเกิดขึ้นทุกวันเพราะการสมยอมกันเพียงแต่ไม่มีคนเข้าแจ้งความเท่านั้น" พล.ต.ต.สุเทพกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ผบก.ปศท.) กล่าวว่า รูปแบบของการกระทำความผิดของบริษัทปล่อยกู้นอกระบบของนายหน้าที่พบ

โดยเริ่มจากการเชิญชวน ชักจูง ให้เข้ามาติดต่อ เพื่อแนะนำวิธีการ เงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการขอรับสินเชื่อ เมื่อลูกค้ารายใดต้องการเงินตามข้อตกลง หากมีบัตรสมาชิก ก็จะพาไปซื้อสินค้าจากร้านค้าสมาชิก หรือกรณีไม่มีบัตรสมาชิก ก็จะพาไปซื้อสินค้าจากร้านค้าสมาชิกเช่นเดียวกัน โดยทำสัญญาสินเชื่อกับสถาบันผู้ออกบัตรสมาชิกและจะได้รับบัตรสมาชิก ที่จะซื้อสินค้าจากร้านได้

"เมื่อได้สินค้ามาแล้ว นายหน้าจะรับสินค้าไว้แทน และจ่ายเงินสดให้กับลูกค้าไป นายหน้าจะหักค่าดำเนินการต่างๆ รวมแล้วลูกค้าจะต้องเสียเงินค่าดอกเบี้ยทั้งหมดรวมประมาณ 58 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลูกค้าสมาชิกบัตร จะเป็นผู้ชำระค่าสินค้ากับสถาบันผู้ออกบัตรตามสัญญาสินเชื่อ โดยนายหน้าไม่ต้องมาร่วมรับผิดชอบใดๆ"

พล.ต.ต.โกวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้ บก.ปศท.อยู่ระหว่างการสืบสวนหานายหน้า โดยมีที่กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา เชียงใหม่ และตามหัวเมืองจังหวัดใหญ่ๆ

นอกจากนี้อยู่ระหว่างสืบสวนจับกุมนายหน้าบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านปริมณฑล ซึ่งผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสาวโรงงาน โดยช่วงต้นเดือนกันยายน ทาง บก.ปศท.จะประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมกันปราบปรามจับกุมนายหน้าที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบเถื่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีความผิดฐานประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์