นพดลเล็งยื่นอุทธรณ์ฟ้องหมอพรทิพย์ผ่าศพห้างทอง

ศาลยกฟ้องคดี "หมอพรทิพย์กับพวก" ผ่าศพ"ห้างทอง" รายงานผลเท็จ "นพดล"ยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ชัดเจนเนื่องจากสังคมยังเคลือบแคลงสงสัยอยู่ว่าอยู่เบื้องหลังการตายพี่ชาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 สิงหาคม ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 9 ศาลจังหวัดนนทบุรี นายกังวาล โป๊ะลำพงษ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรี ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษายกฟ้อง แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และนายแพทย์ธำรง จิรจริยาเวช ในคดีที่นายนพดล ธรรมวัฒนะ ได้ยื่นฟ้องแพทย์ทั้ง 2 เป็นจำเลยที่1 และจะเลยที่ 2 ในข้อหาหรือฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เจ้าพนักงานทำหรือรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, ทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ และผู้ประกอบการงานในวิชาแพทย์ทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ โดยศาลให้ยกฟ้อง เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าจำเลยทำไปโดยหน้าที่ มิได้แอบแฝงหรือมีส่วนได้เสียในผลประโยชน์ ทั้งนี้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ และนายแพทย์ธำรง ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา

นายนพดล กล่าวว่า วันนี้ตนยอมน้อมรับคำตัดสินของศาลไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น แต่ขอยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ชัดเจนเนื่องจากสังคมยังเคลือบแคลงสงสัยอยู่ว่าตนเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตายของพี่ชาย

คำฟ้องสรุปว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต และเป็นผู้ประกอบการงานในวิชาแพทย์ โดยขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 รับราชการในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ส่วนจำเลยที่ 2 รับราชการเป็นแพทย์ประจำหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล งานในหน้าที่ราชการของจำเลยทั้งสองดังกล่าวคือการชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการตายของศพที่ผิดธรรมชาติ เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2546 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้จำเลยทั้ง 2 ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ หรือตรวจศพนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ เพื่อหาสาเหตุการตายของนายห้างทอง ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2546 เวลาประมาณ 09.00 นาฬิกา จำเลยทั้ง2 ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพหรือผ่าหรือตรวจศพของนายห้างทอง ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งจำเลยทั้ง 2 ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการดังกล่าวเสร็จภายในวันเดียวกันนั้น

คำฟ้องระบุอีกว่า เมื่อระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2546 เวลากลางวันจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2546 จำเลยทั้ง 2 ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายต่างกรรมต่างวาระกันกล่าวคือ

จำเลยที่ 1 ทำรายงานการตรวจศพของนายห้างทอง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการของจำเลยที่ 1 เป็นเท็จจำนวน 2 ฉบับ รวม 6 กระทงความผิด และจำเลยทั้ง 2 ยังได้ร่วมกันทำรายงานการตรวจศพของนายห้างทอง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการของจำเลยทั้ง 2 ตามฟ้อง เป็นเท็จอีก 1 ฉบับ รวม 3 กระทงความผิด

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์